วิศวกรชี้ต้องเร่งเสริมเหล็กค้ำยันกลางอาคารเหตุถังแก๊สระเบิดหวั่นฝนตกอาจถล่ม

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ชี้ต้องเร่งเสริมเหล็กรูปตัวยู ค้ำยันกลางอาคารที่เกิดเหตุถังแก๊สระเบิดเครื่องอบผ้า เพื่อรองรับน้ำหนักภายในวันนี้ หวั่นฝนตกตัวอาคารจะถล่มเพราะรับน้ำหนักไม่ไหว


นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ เข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารพาณิชย์ ที่เปิดเป็นร้านซักอบรีด 

ที่เกิดเหตุแก๊สเครื่องอบผ้าระเบิด เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และ โครงสร้างอาคารได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ก่อนระบุว่าโครงสร้างอาคารที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดประกอบด้วย เสาหัก 6 ต้น เป็นเสาด้านหลัง 4 เสากลางตัวอาคาร 2 ต้น ประเมินเบื้องต้นน้ำหนักตัวอาคารยังถ่ายเทไปยังเสาต้นอื่นที่เหลืออยู่ แต่ตัวอาคารติดถนนที่มีรถขนาดใหญ่ วิ่งผ่าน และเป็นช่วงหน้าฝนหากมีฝนตกลงมากอาจทำให้วัสดุในตัวอาคารอุ้มน้ำอาจทำให้โครงสร้างที่เหลืออยู่รับน้ำหนักไม่ไหว ดังนั้นควรต้องรีบใช้เหล็กรูปตัว H มาช่วยค้ำยันตรงกลางอาคารเพื่อช่วยรองรับน้ำหนัก ภายใน 2-3 ชั่วโมงนี้ ก่อนให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน  ส่วนตัวอาคารนั้นเบื้องต้นคาดว่ายังสามารถซ่อมแซมได้แต่ต้องได้รับการรับรองจากวุฒิวิศวกรรมก่อนเปิดใช้อีกครั้ง


นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตดินแดง ระบุว่า ในส่วนของการใช้เหล็กค้ำยันอาคารนั้นตัวเจ้าของกิจการร้านซักอบรีดต้องมาดำเนินการโดยมีวิศวกรของเขตควบคุมดูแล ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวยังรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล แต่จะเร่งให้มีการวางเหล็กค้ำยันใน 2 วันนี้

ด้านนายพลกฤต เย็นใจ ผู้พักอาศัยร้านเสริมสวยด้านข้าง ซึ่งนอนหลับอยู่บริเวณชั้น 2 ตอนเกิดเหตุ เล่าว่า สะดุ้งตื่นจากเสียงระเบิดดังสนั่นกระจกหน้าต่างชั้น 2 แตกละเอียด เมื่อลงมาดูด้านล่างพบกระจกหน้าร้านแตกทั้งหมด ผนังคอนกรีตด้านข้างเกิดรอยแตกร้าวยาวตลอดตัวอาคาร ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะพาครอบครัวไปพักอาศัยที่ไหนระหว่างปิดใช้อาคารทั้งหมด เพราะมีของใช้จำนวนมากอยู่ในอาคาร และครอบครัวยังต้องขาดรายได้ ซึ่งหวังว่าจะมีหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งมีคนมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วย 

ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ได้เรียกผู้เสียหาย 9 ราย มาให้ปากคำเพื่อนำไปประกอบการพิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาดำเนินคดีผู้ใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง