กทม. 30 ส.ค.-ตำรวจเตรียมตรวจสอบกรณีสังคมออนไลน์ แชร์ภาพหญิงสาวโพสต์ภาพใบสั่งจำนวนมาก พร้อมข้อความ พ.ร.บ.ต่อแล้ว ใบสั่งเลิกส่งได้ไหม
พลตำรวจตรีจิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงว่าระบบข้อมูลการออกใบสั่งครั้งนี้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งพิมพ์ใบสั่งอัตโนมัติก่อนส่งไปรษณีย์ไปถึงบ้านของผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร และมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย โดยมีอายุความ 1 ปี หากไม่ไปเสียค่าปรับมีโทษปรับ และจำคุกไม่เกิน 1 ปี และต่อทะเบียนรถไม่ได้ ยอมรับว่า ระบบใบสั่งอยู่ระหว่างเชื่อมฐานข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะกรมการขนส่งทางบกมีสำนักงานอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีฐานข้อมูลที่ใหญ่ หากระบบแล้วเสร็จ ใบสั่งยังไม่หมดอายุความ จะมีผลในการต่อทะเบียนรถทันที ส่วนหญิงที่โพสต์เฟซบุ๊กนั้น ได้กระทำผิดซ้ำ ต่างกรรมต่างวาระ แต่ไม่ยอมไปจ่ายค่าปรับทำให้มีใบแจ้งเตือนซ้ำ ซึ่งจะให้ตำรวจท้องที่ตรวจสอบ
นอกจากนี้ กรณีมีผู้โพสต์คลิปตำรวจ อ้างเป็นรองสารวัตรจราจร สน.พญาไท ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรบริเวณแยกอุรุพงษ์ ตำรวจได้ตรวจสอบไปยังพื้นที่ สน.พญาไท แล้ว พบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม โดยรองสารวัตรจราจร ต้องรีบไปอำนวยการจราจรพิเศษให้คณะผู้นำต่างประเทศที่จะลงทางด่วนยมราช ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของประเทศตามกฎหมาย ทำให้มีข้อยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน หรือใช้ยานพาหนะเปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินให้ขี่ย้อนศรหรือเข้าไปในพื้นที่ห้ามเข้าได้ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตอบโต้ประชาชนไม่เหมาะสม ต้นสังกัดก็ได้เรียกพูดคุยแล้ว
ส่วนปัญหารถติดในเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้า ตำรวจเร่งอำนวยความสะดวกประชาชน เช่น บริเวณสถานี กลางบางซื่อ ใกล้สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ ที่กำลังมีการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีกำหนดแล้วเสร็จเดือนมิถุนายนปี 63 เบื้องต้น อาจขยายเส้นทางโดยรอบ และสร้างสะพานลอยคนข้าม 3 แห่ง รอบพื้นที่ เพื่อลดจำนวนคนข้ามทางม้าลาย ที่ส่งผลกระทบให้การจราจรชะลอตัว.-สำนักข่าวไทย