บูม จิรัชพิสิษฐ์ พร้อมพ่อแม่ พบตำรวจแจงคดีโกงเงินบิทคอยน์

กทม. 27 ส.ค. – บูม จิรัชพิสิษฐ์ นักแสดงวัยรุ่น พร้อมพ่อแม่ เข้าพบตำรวจกองปราบ โดยพ่อแม่เข้าชี้แจงเส้นทางการ เงินคดีโกงเงินบิทคอยน์ ส่วนบูมรับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกง





นายสุวิทย์ และ นางเลิศฉัตรกมล จารวิจิต พ่อแม่ของนายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม นักแสดง เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามตามหมายเรียก ให้ปากคำเกี่ยวกับที่มาของเงิน 90 ล้านบาท ที่ได้รับโอนจากนายปริญญา ลูกชายคนโต ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงินและฉ้อโกงคดีบิทคอยน์ มูลค่า 797 ล้านบาท ขณะที่นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม เดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อเข้ารับทราข้อกล่าวหาฉ้อโกง หลังก่อนหน้านี้ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินในคดีนี้


ก่อนหน้านี้ นายสุวิทย์และนางเลิศฉัตรกมล ส่งทนายเข้าแจ้งพนักงานสอบสวนว่า ไม่สามารถเดินทางมาเองได้ และมอบหมายให้ทนายมาดำเนินการแทน แต่สุดท้ายกลับเดินทางมาพร้อมกับบูมแต่หลบขึ้นด้านหลังกองปราบปราม

พันตำรวจเอกชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าวันนี้ครบกำหนดหมาย เรียกครั้งที่ 1 ที่พ่อแม่ของนายบูมต้องมาให้ปากคำเรื่องเส้นทางการเงิน และรับโอนเงินจากนายปริญญา

สำหรับหมายเรียกมาให้ปากคำคดีนี้มีด้วยกัน 3 คน คือนายสุวิทย์ นางเลิศฉัตรกมล พ่อแม่ของบูม และนายธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตนายทหารที่รับโอนหุ้นจากนายปริญญา เรียกมาสอบปากคำวันพรุ่งนี้ หากทั้งหมดชี้แจงไม่ได้ว่าทรัพย์สินและหุ้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน เหมือนกับ นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม นายปริญญา นางสาวสุพิชฌาย์ พี่ชายและพี่สาวของบูม

นอกจากนี้ วันที่ 29 สิงหาคม พนักงานสอบสวนยังได้เรียกบุคคล 5 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกง ประกอบด้วย นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม นายปริญญา และนายธนสิทธิ์ จารวิจิต พี่ชายของบูม นายชาคริส อาห์มัด ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เอ็กเปย์ และนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหุ้นเมืองไทย เนื่องจากพบข้อมูลว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการหลอกผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนบิทคอยน์

คดีนี้เกิดขึ้นปี 60 มีผู้เสียหายเป็นชาวฟินแลนด์เข้าแจ้งความว่า ถูกนายปริญญาพร้อมพวกหลอกลงทุนซื้อขาย สกุลเงินดิจิทัล ในชื่อ ดรากอน คอยน์ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ร่วมลงทุนโอนเหรียญบิทคอยน์ เข้าไปยังกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในบัญชีของบูม และผู้ต้องหาอื่นๆ รวมเป็นเงินเกือบ 800 ล้านบาท .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง