กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “บูม จิรัชพิสิษฐ์” นักแสดงซีรีส์วัยรุ่น ผู้ต้องหาคดีหลอกลงทุนบิทคอยน์ ฝากขังผัดแรก ล่าสุด ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ด้วยวงเงินประกัน 2 ล้านบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนพี่สาวอยู่ระหว่างประสานขอเข้ามอบตัว ขณะที่เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 5-6 คน
พนักงานสอบสวนกองปราบปรามควบคุมตัวนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม อายุ 27 ปี นักแสดงวัยรุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีร่วมกันฟอกเงิน ที่หลอกลงทุนเงินสกุลดิจิทัล หรือบิทคอยน์ มูลค่ากว่า 797 ล้านบาท ออกจากกองปราบปราม ไปยื่นคำร้องขอฝากขังผัดแรก ต่อศาลอาญา รัชดาฯ เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-21 ส.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลเกี่ยวข้องการทำธุรกรรมอีก 10 ปาก และรอเอกสารทางการเงินของพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง กับรอผลตรวจสอบประวัติลายพิมพ์นิ้วมือ ท้ายคำร้องพนักงาสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง และเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายบูม ยังคงให้การปฏิเสธ ไม่มีส่วนรู้เห็น โดยอ้างว่าบัญชีดังกล่าวถูกพี่ชายนำไปใช้
ส่วนกระแสข่าวว่า น.ส.สุพิชฌาย์ จารวิจิต พี่สาวนายบูม ติดต่อขอเข้ามอบตัวนั้น เรื่องนี้ผู้บังคับการกองปราบปรามเปิดเผยว่า น.ส.สุพิชย์ฌา ได้ประสานผ่านคนกลางมาเพื่อขอเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ระบุวันเวลา และยังไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ
ขณะที่ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่าคดีนี้เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีกประมาณ 5-6 คน ซึ่งมีการรับเงินจากการฉ้อโกงเข้าหมุนเวียนในบัญชีนี้ แต่เป็นลักษณะแอบอ้างว่าบริษัทตัวเองอยู่ในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมหรือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนกรณีนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ บุคคลที่มีชื่อเสียงในตลาดหลักทรัพย์ ที่มาขอเข้าพบชี้แจงว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้เช่นเดียวกัน จากการสืบสวน รวบรวมหลักฐาน ตำรวจพบข้อมูลที่เชื่อได้ว่านายประสิทธิ์ อาจมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนการตรวจสอบ 3 บริษัท ที่มีการเปิดทั้งในประเทศไทยและเกาะฮ่องกง ยังพบว่า นายปริญญา จารวิจิต พี่ชายบูม มีส่วนเกี่ยวข้องในส่วนทะเบียนการค้าทั้ง 3 บริษัท พบว่ามีคนในตระกูลจารวิจิตรเข้าร่วมด้วย และบางบริษัทมีการแอบอ้างกับผู้เสียหายโดยไม่มีตัวตนจริง นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอื่นๆ อีกหลายบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และยังพบอีกว่า นายปริญญา มีประวัติถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร อีกด้วย
ล่าสุด ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ผู้ต้องหา ด้วยวงเงินประกัน 2 ล้านบาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางไปต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล.-สำนักข่าวไทย