ซานซัลวาดอร์ 7 ก.ย.- เอลซัลวาดอร์ ประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางใช้บิทคอยน์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายครบ 1 ปีในวันนี้ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาด เพราะราคาบิทคอยน์ได้ร่วงลงอย่างมากในขณะนี้
เจ้าของร้านค้าในเมืองเอลซอนเต เมืองตากอากาศริมทะเลที่เป็นศูนย์กลางการใช้บิทคอยน์เผยว่า ปีที่แล้วทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เพราะมูลค่าบิทคอยน์พุ่งขึ้นจาก 52,660 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.93 ล้านบาท) ในวันที่ทางการประกาศให้ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้เป็นวันแรกเมื่อ 7 กันยายน 2564 เป็นมากกว่า 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.5 ล้านบาท) ในอีกไม่เดือน แต่ในช่วง 5 เดือนมานี้ราคามีแต่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และเหลือไม่ถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 732,960 บาท) แล้วในเดือนนี้ อย่างไรก็ดี เขาก็ยังคงรับบิทคอยน์อยู่
เมืองเอลซอนเตอยู่ห่างจากกรุงซานซัลวาดอร์ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 60 กิโลเมตร ใช้บิทคอยน์ชำระค่าสินค้าและบริการ ตั้งแต่ประธานาธิบดีนายิบ บูเกเล วัย 41 ปี ยังไม่ประกาศให้เอลซัลวาดอร์ใช้บิทคอยน์เป็นประเทศแรกของโลก ควบคู่ไปกับดอลลาร์สหรัฐที่ใช้เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการมานาน 2 ทศวรรษ รัฐบาลสร้างแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ซีโว (Chivo) และแจกเงินอิเล็กทรอนิกส์มูลค่า 30 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,100 บาท) ให้แก่ผู้ใช้งาน ประธานาธิบดีอ้างว่า นับจนถึงเดือนมกราคมปีนี้มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้แล้ว 4 ล้านครั้ง ถือว่าน่าประทับใจสำหรับประเทศที่มีประชากร 6 ล้าน 6 แสนคน ในจำนวนนี้ 3 ล้านคนอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ เขาคาดหวังว่า แอปพลิเคชันนี้จะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนเงินให้แก่เงินที่ประชาชนในต่างแดนส่งกลับประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 28 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) แต่อดีตประธานธนาคารกลางเอลซัลวาดอร์อ้างข้อมูลของธนาคารกลางว่า มีเงินส่งกลับประเทศผ่านกระเป๋าเงินซีโวไม่ถึงร้อยละ 2 เท่านั้น
ประธานาธิบดีบูเกเล ประกาศตั้งเมืองบิทคอยน์ริมอ่าวฟอนเซกา โดยจะใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพจากภูเขาไฟกอนชากัวผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนการทำงานของเมือง และจะระดมเงินผ่านการออกพันธบัตรบิทคอยน์มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36,650 ล้านบาท) แต่ต้องชะลอแผนการออกไปเมื่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเกิดความผันผวน ปัจจุบันเอลซัลวาดอร์ถือครองบิทคอยน์อยู่ทั้งหมด 2,381 หน่วย และถูกเตือนว่าอาจผิดนัดชำระหนี้สาธารณะที่สูงกว่าร้อยละ 80 ของจีดีพี.-สำนักข่าวไทย
