สธ.22 ส.ค.-สธ.ให้สำนักระบาดวิทยา ลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุกรณีพบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่ จ.อุทัยธานี พร้อมแนะประชาชนหมั่นล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว หากสงสัยป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ หรือป่วยเกิน 48 ชั่วโมงอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน หลายพื้นที่มีมีฝนตกสลับอากาศร้อน ส่งผลให้กลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว เสี่ยงเจ็บป่วยด้วยโรคที่พบบ่อยคือโรคไข้หวัดใหญ่ โรคนี้รักษาได้ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง อาการของโรคมักจะเกิดขึ้นทันทีทันใดด้วยอาการไข้สูง ตัวร้อน หนาว ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆไอไข้ ประมาณ 2–4 วันและค่อยๆลดลง อาการจะค่อยๆดีขึ้น โดยโรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยในกลุ่มเสี่ยง คือโรคปอดบวม ผู้ป่วยจะมีไข้สูงหนาวสั่น ไอมีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว หายใจเหนื่อยหอบ
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ได้กำชับสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการเจ็บป่วยด้วยมาตรการปิด ล้าง เลี่ยง หยุด คือปิดปากจมูกเมื่อป่วยไอ จาม สวมหน้ากากอนามัย หรือไอใส่ต้นแขนตนเอง ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร หลังไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม หรืออยู่ในสถานที่คนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก ให้หยุดงาน หยุดเรียน หยุดกิจกรรมกับผู้อื่นเมื่อป่วย เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น รวมทั้งให้โรงพยาบาลทุกแห่งดูแลรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานการรักษา ป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อน
“ในกรณีที่มีข่าวพบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่จังหวัดอุทัยธานีนั้น ให้สำนักระบาดวิทยาลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต แต่ขอให้ประชาชนยึดหลักสุขอนามัยที่ดี หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หลีก เลี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่วย ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย ไม่อยู่ในที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทเป็นเวลานาน สวมเสื้อผ้าหนาๆให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว หากสงสัยป่วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือป่วยเกิน 48 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้น เหนื่อยง่ายหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาป้องกันภาวะแทรกซ้อนโรค”นพ.โอภาส กล่าว
ขณะที่ข้อมูล สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ต้นปีนี้ ถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยแล้วเกือบ 90,000 คน เสียชีวิต 12 ราย เฉพาะเดือนกรกฎาคมเดือนเดียว พบผู้ป่วย 16,056 คน เสียชีวิต 2 ราย .-สำนักข่าวไทย