เปรู 14 พ.ย.-“พิชัย” รมว.พาณิชย์ ถกผู้แทนการค้าสหรัฐ ดันไทยเป็นฐานผลิตสินค้าอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐ ผลักดันการต่ออายุโครงการ GSP พร้อมขอสหรัฐปลดไทยออกจากบัญชี Watch List ด้านทรัพย์สินทางปัญญา
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือทวิภาคีกับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า ผลักดันการต่ออายุโครงการ GSP และส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่สหรัฐฯ
นายพิชัย กล่าวว่า ไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน โดยในการหารือไทยได้แสดงความยินดีต่อการสรุปผลแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) ที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List) ซึ่งสหรัฐรับปากจะนำไทยออกจาก Watch List เร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ
ไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ พร้อมเผยจนได้ขอบคุณบริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบริษัท Google และ Amazon ที่ได้ยืนยันแผนการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค พร้อมทั้งได้เชิญชวนบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ อื่นๆ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มอีกปลายเดือนนี้
“ไม่ห่วงการมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมเผยเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตนเองพร้อมคณะ จะเดินทางไปสหรัฐฯ พบกับผู้นำในสภาและผู้นำทางการค้าของสหรัฐ ซึ่งได้มีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว ตนตั้งใจไปแสดงความจริงใจและย้ำว่าไทยเป็นมิตรกับสหรัฐฯ และบริษัทในสหรัฐจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก ดังนั้นสหรัฐควรเอื้อประโยชน์ให้ไทย หากมีสงครามการค้าก็ให้ข้ามประเทศไทยไปได้เลย ตอนนี้ประเทศต่างๆ ก็มั่นใจในจุดยืนด้านความเป็นกลางของไทย ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องที่ต้องเป็นห่วง และจากการพบปะกับสหรัฐและแคนนาดาในวันนี้ เขาก็รู้สึกแฮปปี้ที่ไทยสามารถเข้าได้กับทุกคน” นายพิชัย กล่าว
ทั้งนี้ในปี 2566 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย รองจากจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 67,659.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ 48,352.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขณะที่สหรัฐฯ เป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 3 ของไทย มีมูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐฯ 19,307.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์.-517.-สำนักข่าวไทย