กรุงเทพฯ 22 ส.ค.- ผบ.ตร. สอบ เสี่ยอ้วน สารภาพลงมือฆ่า ฟอส-สปายจริง หลังก่อเหตุกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และคำกล่าว ผบ.ตร “ไม่ตันก็ตาย” จึงขอเลือกทางตัน และเสียใจกับเหตุการณ์นี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาฆ่านายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส และ นางสาวปวีณา หรือ สปาย นาเมืองรักษ์ ที่บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาม ที่ผ่านมา มาทำการสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังรับมอบตัวจากประเทศกัมพูชา เมื่อวานที่ผ่านมา (21 ส.ค.)โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญบาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ทำการสอบสวนด้วยตนเองใช้เวลากว่า 30 นาที พร้อมตรวจดูอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุซึ่งตำรวจ สภ.นางจอมเทียน ได้นำรถยนต์จำนวน 6 คัน ที่ใช้ในการก่อเหตุ และ ปืน ของกลาง หลักฐานในคดี มาประกอบการแถลงข่าวด้วย
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เปิดเผยว่านายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ยอมรับสารภาพ แต่ไม่ขอลงรายละเอียดสาเหตุและแรงจูงใจ เนื่องจากอยู่ในสำนวน สำหรับคดีนี้ถือว่าจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด และไม่จำเป็นต้องขยายผลว่ามีเจ้าหน้าท่ีรัฐเข้าไปช่วยเหลือพานายปัญญาหนีหรือไม่ รวมถึงเป็นคดีที่ได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านนำไปสู่การจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด และยังเป็นแนวทางการประสานงานคดีอื่นๆ
ทั้งนี้ นายปัญญา ยังอ้างไม่ทราบว่า บริเวณจุดก่อเหตุเป็นวัด และคิดว่าเป็นเพียงรูปปั้นแกะสลักเท่านั้น ตอนก่อเหตุยิง 2 นัดแรก ยิงไม่ออก พอมารู้ที่หลังเป็นสถานที่สิ่งศักดิ์ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา และขณะหลบหนีอยู่ที่กัมพูชาได้ติดตามข่าวจากกูเกิ้ล เจอคำที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพูดว่า “ไม่ตายก็ตัน” จึงขอเลือกทางตัน
ขณะที่คดีที่นายปัญญา เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดี ฆ่าพ่อค้าไอศกรีม ที่ จ.ภูเก็ต ปี 2558 พร้อมประกาศผ่านโซเชียลว่า เสียเงินสองล้านฆ่าคนตายไม่ติดคุก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ยังไม่มีการพูดคุยคดีนี้ขอทำคดีนี้ก่อน
ส่วนการติดตามตัวนายอัศยา ชัยภา หรือโก้ ผู้ต้องหาฆ่านางสาวธิติมา ตังวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ ที่หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาเช่นกัน โดยเชื่อว่าจะได้ตัวนายโก้มาดำเนินคดีเร็วๆนี้ โดยจะใช้ขั้นตอนและวิธีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา คล้ายกับคดีนายปัญญา.-สำนักข่าวไทย