กรุงเทพฯ 18 ส.ค.-พิษพายุ”เบบินคา”ทำให้การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่งกรมทางหลวงยืนยันทำทางเบี่ยงให้เสร็จใน 24 ชม.
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงความเสียหายของสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงที่ได้รับความเสียหายจากอิทธิพลของพายุเบบินคาว่า ทำให้การจราจรผ่านไม่ได้รวม 5 แห่ง เนื่องจากมีสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 3 จังหวัด จำนวน 6 แห่ง จำนวน 6 สายทาง (จำนวน ผ่านได้ 3 แห่ง / ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) และมีสถานการณ์ดินสไลด์/ดินโคลนถล่ม พื้นที่ 2 จังหวัด จำนวน 2 แห่ง จำนวน 2 สายทาง (จำนวน ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) โดยมีรายละเอียดดังนี้ สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพะเยา และจังหวัดน่าน
จังหวัดเชียงใหม่ 2 สายทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 107 ตอน แม่ทะลาย-หัวโท อำเภอเชียงดาวช่วงกม.ที่ 68 ระดับน้ำสูง 24 ซม. การจราจรผ่านได้แต่ไม่สะดวก, ทางหลวงหมายเลข 118 ตอนเชียงใหม่-เชียงราย อำเภอดอยสะเก็ดช่วงกม.ที่ 42-50 น้ำท่วมทางเบี่ยงขาดใช้ทางเลี่ยง เส้นทางที่1เชียงใหม่(ทล.11)-ลำพูน-ลำปาง(ทล1)-พะเยา-เชียงราย ระยะทางประมาณ 350 กม.
เส้นทางที่ 2 เชียงใหม่(ทล.1001) พร้าว (ทล.1150)เวียงป่าเป้า แม่สรวย เชียงราย ระยะทางประมาณ 250 กม.
เส้นทางที่ 3 เชียงใหม่(ทล.107)ฝาง-(ทล.109)แม่สรวย(ทล.118)-เชียงราย ระยะทาง ประมาณ 280กม.
จังหวัดพะเยา 2 สายทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 1188 ตอน ปง – ห้วยกอก อำเภอปง ช่วงกม.ที่ 9 และ กม.12-13 ระดับน้ำสูง 10 ซม.การจราจรผ่านได้ไม่สะดวกและทางหลวงหมายเลข 1091 ตอน ป่าแดง – ปงสนุก อำเภอเชียงม่วน ช่วงกม.ที่ 48 ระดับน้ำสูง 25 ซม.การจราจรผ่านได้ไม่สะดวก
จังหวัดน่าน 2 สายทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 1168 ตอนน่าน – น้ำใส อำเภอภูเพียงช่วงกม.ที่ 0 ระดับน้ำสูง 100 ซม.ไม่มีเส้น ทางเลี่ยงและทางหลวงหมายเลข 1169 ตอนท่าล้อ – เมืองหลวง อำเภอภูเพียง ช่วงกม.ที่ 0 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
นอกจากเกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวแล้วยังมีเหตุมีสถานการณ์ดินสไลด์/ดินโคลนถล่ม พื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่านและจังหวัดระนอง โดยมีรายละเอียดดังนี้ จังหวัดน่าน ทางหลวงหมายเลข 1081 บ้านเวร – ห้วยโก๋น อำเภอบ่อเกลือช่วงกม.ที่ 87-90ไม่มีเส้นทางทดแทนและจังหวัดระนอง ทางหลวงหมายเลข 4 กระบุรี – หงาว อำเภอเมือง ช่วงกม.ที่ 584+500 ให้ใช้ทางหลวงชนบท ทช.4010 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 4004-บ้านน้ำตก แทน
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทางหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ทั่วประเทศ หรือ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง-สำนักข่าวไทย