สำนักข่าวไทย 17 ส.ค. – คดีสังหาร “สปาย-ฟอส” ใกล้จะชัดเจนมากขึ้น โดยพรุ่งนี้ ผบ.ตร.เตรียมแถลงรายละเอียดตามที่เป็นข่าว ขณะที่สำนักข่าวไทย รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ของทีมสังหาร รวมถึงทีมที่ช่วยเหลือพา “เสี่ยอ้วน” หลบหนี โดยพบว่าขบวนการนี้มีผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุ 9 คน
รายละเอียดการก่อเหตุสังหารหนุ่มสาว “สปาย-ฟอส” ที่ลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบว่าค่อนข้างซับซ้อนและแยบยล ไล่เรียงตั้งแต่ผู้ต้องหาที่ดำเนินคดีเป็นคนแรก คือ นายสายันต์ ศรีสุข หรือ “ยันต์” ทำหน้าที่ตีสนิทเพื่อนเหยื่อ ก่อนชี้พิกัดและส่งสัญญาณไฟเขียวให้ทีมสังหารก่อเหตุ
ระหว่างนั้นมีรถโตโยต้า ยาริส สีขาว ซึ่งมีนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ “ป๊อปปี้” เดินทางมากับนายกฤษณะ สีสุข หรือ “มด” ขับเข้ามาปิดท้ายรถเหยื่อ จากนั้นนายเกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือ “บอล” ซึ่งเป็นคนขับรถฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ที่พานายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” และนายณรงค์ วรินทรเวช หรือ “บ่าว” 2 มือปืน ขับเข้ามาประชิดรถเหยื่อ ก่อนลงมือสังหารด้วยปืน 2 กระบอก
จากนั้นทั้งหมดได้หลบหนีจากจุดเกิดเหตุ โดย “บอล” กับ “เสี่ยอ้วน” ได้สลับรถจากฮอนด้า ซีอาร์วี เป็นโตโยต้า วีโก้ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆ แบ่งหน้าที่นำรถเช่าไปคืน ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี โดย “บอล” และ “เสี่ยอ้วน” ขับกระบะหนีไปทางสระแก้ว เนื่องจาก “บอล” มีญาติสนิทที่สระแก้ว และติดต่อให้ช่วยพาข้ามแดน จนเป็นที่มาทำให้ตำรวจจับญาติของ “บอล” ได้ 2 คน คือ นายโกวัน หรือ “วัน” และนายวินัย หรือ “เหน่ง” ศิลปาโน ผู้ต้องหาคนที่ 7 และ 8
ทีแรก “เสี่ยอ้วน” จะข้ามแดนทันที แต่พอถึงจุดผ่านแดน พบว่าปิดไปแล้ว จึงมีการติดต่อกับผู้ต้องหาคนที่ 9 คือ นายภูธร สิงห์ดี หรือ “น้อย” โดย “น้อย” ได้พา “เสี่ยอ้วน” ข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากมีภรรยาเป็นชาวกัมพูชา จากนั้นเมื่อ “เสี่ยอ้วน” ข้ามแดนได้สำเร็จ จึงหลบหนีต่อ แต่ไปไม่รอด ก่อนจนมุมในที่สุด. – สำนักข่าวไทย