ย้อนคดี “เสี่ยอ้วน” ฆ่า “สปาย-ฟอส” หน้าเขาชีจรรย์ ก่อนสืบพยานวันแรกพรุ่งนี้

ชลบุรี 8 ก.ค. – หนึ่งในคดีอุกฉกรรจ์ของปีที่แล้ว คือ คดีสังหารโหด 2 ศพ หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี โดยผู้ก่อเหตุคือ “เสี่ยอ้วน” นายปัญญา ยิ่งดัง เจ้าของสถานบันเทิงย่านซอยบางลา จ.ภูเก็ต ส่วนเหยื่อคือ “สปาย” และ “ฟอส” เหตุการณ์ผ่านไปเกือบปี พรุ่งนี้ (9 ก.ค.) ศาลจังหวัดพัทยานัดสืบพยานวันแรก เราจะไปไล่เรียงเหตุการณ์ทั้งหมดจากรายงานชิ้นนี้


เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากความรักของ “เสี่ยอ้วน” ที่มีต่อ “สปาย” ที่ จ.ภูเก็ต ก่อนจบลงด้วยความแค้นที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ปีที่แล้ว ระหว่างที่ “สปาย” น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ และ “ฟอส” นายอนันตชัย จริตรัมย์ 2 ผู้ตาย พร้อมนายวราเทพ และนายสายันต์ เดินทางไปไหว้พระ เนื่องในวันเกิดครบ 20 ปีของฝ่ายหญิง “เสี่ยอ้วน” เจ้าของสถานบันเทิงผู้กว้างขวางในซอยบางลา จ.ภูเก็ต ซึ่งเคยคบหากับ “สปาย” ขณะที่ทำงานในสถานบันเทิงของ “เสี่ยอ้วน” ก่อนหนีไปทำงานที่ จ.นครปฐม กับ “ฟอส” ได้วางแผนให้ “สายันต์” เข้าไปตีสนิท “วราเทพ” เพื่อนสนิทเหยื่อ จนชักชวนกันเดินทางไปฉลองวันเกิดที่พัทยา โดย “สายันต์” ทำหน้าที่ชี้เป้าให้ “เสี่ยอ้วน” ที่มีความแค้นสุมเต็มอก เนื่องจาก “สปาย” ไม่รับรัก แม้ว่าจะทุ่มเงินทองให้มากมาย แถมยังโกหกว่า “ฟอส” เป็นเพื่อนสาว ทั้งที่คบหาเป็นแฟนกันมาตลอด


ในวันเกิดเหตุ หลังไหว้พระ “สปาย” และ “ฟอส” เดินไปยังรถเช่าที่ลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ระหว่างนั้นมีรถโตโยต้า ยาริส สีขาว ซึ่งมีนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ “ป๊อปปี้” ขับมากับนายกฤษณะ สีสุข หรือ “มด” เข้ามาปิดท้ายรถเหยื่อ จากนั้นนายเกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือ “บอล” ขับรถฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว พา “เสี่ยอ้วน” และนายณรงค์ วรินทรเวช หรือ “บ่าว” 2 มือปืน เข้ามาประชิด ก่อนลั่นไกใส่ “สปาย” และ “ฟอส” ในระยะเผาขน รวม 7 นัด


จากนั้นทั้งหมดได้หลบหนี โดย “บอล” กับ “เสี่ยอ้วน” หนีไปทาง จ.สระแก้ว ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆ นำรถเช่าไปคืน ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี เบื้องต้น “เสี่ยอ้วน” จะหนีข้ามแดนทันที แต่จุดผ่านแดนปิดก่อน จึงเปลี่ยนไปข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยมีนายน้อย พาหนี แต่ก็ไปไม่รอด กระทั่งจนมุมในที่สุด โดย “เสี่ยอ้วน” สารภาพลงมือฆ่า “สปาย-ฟอส” จริง หลังก่อเหตุกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และคำกล่าวของ ผบ.ตร. ที่ว่า “ไม่ตันก็ตาย” จึงขอเลือกทางตัน โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 คน ซึ่งศาลจังหวัดพัทยานัดสืบพยานวันแรก พรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เวลา 09.00 น. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก