นครพนม 8 ส.ค.-นอกจากปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำสงครามในพื้นที่นครพนมแล้ว ลำน้ำก่ำเป็นอีกลุ่มน้ำสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากระดับแม่น้ำโขงที่ขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี แต่ล่าสุดน้ำโขงลดระดับอย่างต่อเนื่อง รองรับการระบายน้ำจากลำน้ำสาขาได้สะดวกขึ้น คาดว่าหากไม่มีฝนเข้ามาเติม ปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำก่ำจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 3-4 วัน
อิทธิพลแม่น้ำโขงช่วงไหลผ่าน จ.นครพนม หนุนสูงสุดในรอบ 13 ปี ทำให้ลำน้ำสาขาไม่สามารถระบายลงแม่น้ำโขงได้สะดวก หนึ่งในนั้นคือลำน้ำก่ำ ที่รับน้ำมาจากหนองหาร จ.สกลนคร ไหลเข้านครพนมทาง อ.วังยาง นาแก ปลาปาก เรณูนคร และธาตุพนม เกิดน้ำเอ่อล้นค้างในพื้นที่มากที่สุดที่ อ.ธาตุพนม ซึ่งอยู่ปลายน้ำ โดยเฉพาะบริเวณปากน้ำก่ำ บ้านน้ำก่ำน้อยที่ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
เปรียบเทียบวันที่น้ำขึ้นสูงสุดต่างกับวันนี้ราว 1 เมตร แต่จุดที่น้ำเข้าครัวเรือนมีเพียง 6 หลัง และรีสอร์ตอีก 1 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นเรือกสวนไร่นา ซึ่งพืชผลทางการเกษตรเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนพูดตรงกันว่า เคยประสบภัยน้ำท่วมหนักที่สุดในปี 2521 ปีนี้มาเป็นอันดับ 2 จึงถือว่าหนักสุดในรอบ 40 ปี
ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ระดับแม่น้ำโขงลดลงเฉลี่ยวันละ 30 เซนติเมตร ทำให้การระบายน้ำไหลสะดวกมากขึ้นตามลำดับ เหลือเพียงบริเวณปากน้ำก่ำ 1,000 เมตรสุดท้าย ก่อนลงสู่แม่น้ำโขงที่ยังล้นตลิ่งท่วมบ้านน้ำก่ำน้อย ซึ่งผู้นำหมู่บ้านเคยเสนอให้สร้างพนังกั้นน้ำมาเกือบ 10 ปีแล้ว เพราะไม่เพียงป้องกันมวลน้ำ แต่ยังช่วยป้องกันตลิ่งพังที่เป็นปัญหาซ้ำซาก โดยมีลูกบ้านถึง 3 คน ที่มีเพียงเอกสารสิทธิ์ แต่ที่ดินทำการเกษตรถูกน้ำกัดเซาะพังทลายสูญหายไปกับน้ำหมดแล้ว
ทันทีที่แม่น้ำโขงลดได้ระดับ เครื่องผลักดันน้ำถูกนำมาติดตั้งเพิ่มที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต จาก 8 เครื่อง เป็น 12 เครื่อง ทำให้ระบายน้ำได้วันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิมที่ทำได้เพียง 13-14 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ในช่วงน้ำโขงหนุนสูง ดังนั้น มวลน้ำ 3 ก้อนที่ค้างอยู่ในระบบ ได้แก่ ต้นลำน้ำก่ำที่หนองหาร สกลนคร 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ในลำน้ำก่ำเองที่เกินความจุเกือบ 100% หรือ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร และน้ำค้างทุ่งอีก 10 ล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่มีฝนมาเติม จะสามารถระบายลงสู่แม่น้ำโขงได้หมดภายใน 3-4 วัน.-สำนักข่าวไทย