กรมบังคับคดี ไม่พบข้อมูล ‘ครูชัยภูมิ’ ถูกฟ้องล้มละลาย ค้ำ กยศ.

สำนักข่าวไทย 31 ส.ค.– อธิบดีกรมบังคับคดี เผยยังไม่พบข้อมูล‘ครูชัยภูมิ’ถูกบังคับคดีหรือถูกฟ้องล้มละลายจากการค้ำประกันเงินกู้ กยศ.  พร้อมแนะ กยศ.ใช้กฏหมายใหม่ในการตามเก็บทวงหนี้จากผู้กู้ให้ถึงที่สุด ก่อนไปถึงผู้ค้ำประกัน


น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวถึงกรณีมีข่าวครูผู้ชายที่ จ.ชัยภูมิ ไปค้ำประกันเงินกู้ กยศ.ให้ลูกศิษย์ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสรพงศ์ เค้ากล้า ครูโรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่ได้รับหมายศาล เรียกให้ไปไกล่เกลี่ยและติดตามหนี้ กยศ.ที่ได้ค้ำประกันวงเงินกู้ให้เด็กนักเรียน ม.ปลายได้เรียนหนังสือ จนจบมหาวิทยาลัยรวมจำนวน 40 คน ว่า กองทุนฟื้นฟูกิจการลูกหนี้ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลแล้วไม่พบข้อมูลครูคนดังกล่าวว่าถูกบังคับคดี และไม่มีข้อมูลถูกฟ้องล้มละลายจากการค้ำประกันเงินกู้ กยศ.แต่ยังตอบไม่ได้ว่ามีการถูกฟ้องละลายในคดีอื่นๆ อีกหรือไม่ 


นอกจากนี้กรมบังคับคดีได้สอบถามไปยังกยศ.ซึ่งยืนยันข้อมูลตรงกันว่า กยศ.ยังไม่เคยฟ้องล้มละลายลูกหนี้แม้แต่รายเดียว


ส่วนกรณีของ น.ส.วิภา บานเย็นนั้น รมว.ยุติธรรม ได้สั่งการให้กรมฯเข้าไปอำนวยความยุติธรรมให้ โดยที่ผ่านมาพบว่า กยศ.ดำเนินการตามกฎหมายเก่า หากไม่สามารถตามทรัพย์จากผู้กู้ได้ก็จะตามบังคับคดีจากผู้ค้ำประกัน ซึ่งสามารถติดตามตัวและบังคับคดีได้ง่ายกว่า จึงได้ให้ข้อสังเกตตามข้อสั่งการของ รมว.ยุติธรรม ไปยัง กยศ.ว่า ขณะนี้กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว โดย กยศ.ต้องทำงานละเอียดมากขึ้นในการติดตามทวงหนี้จากผู้กู้ให้ถึงที่สุด ก่อนจะไปบังคับเอากับผู้ค้ำประกัน ซึ่งกฎหมายใหม่ กยศ.สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกหนี้ได้ ไม่ว่าจะเข้าไปทำงานในภาครัฐ หรือเอกชนทุกหน่วยงานมีหน้าที่ต้องมอบข้อมูลทรัพย์สิน และเงินเดือนของลูกหนี้ให้กับ กยศ.ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการติดตามทวงถามลูกหนี้ให้กับ กยศ.

อธิบดีกรมบังคับคดี ยังกล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดในส่วนของกรมบังคับคดี ได้ขอนำร่องส่งเงินเดือนของข้าราชการให้กับกรมบัญชีกลางเพื่อหักเงินเดือนผ่อนชำระให้กับ กยศ.ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 200 คน สำหรับภาพ รวมการบังคับคดีหนี้ กยศ.ในรอบ 9 เดือนของปีงบประมาณ 61 พบว่า  กยศ.ได้ทำเรื่องขออายัดเงินเดือนจำนวน 8,384 คดี กว่า 900 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายใหม่นายจ้างทั้งภาครัฐและเอกชนมีหน้าที่ต้องหักเงินเดือนลูกจ้างที่เป็นหนี้  โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

นอกจากนี้ยังได้หารือกับกรมการปกครองโดยให้สำรวจข้าราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่เข้าไปเซ็นรับรองและเซ็นค้ำประกันหนี้ กยศ.เพื่อเตรียมแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกันที่เกิดขึ้นกับ น.ส.วิภาอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง