กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เผยเดือนหน้าจะพิจารณาปรับเพิ่มยอดผลิตรถยนต์ขึ้นจาก 2 ล้านคัน เป็น 2.1 ล้านคัน เพราะเศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้น ยอดขายในประเทศเพิ่มจาก 900,000 คัน เป็น 970,000-980,000 คัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากยอดขายรถยนต์ที่ดีขึ้นต่อเนื่องทั้งยอดขายในประเทศและส่งออกที่เพิ่มขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะพิจารณาปรับเพิ่มยอดการผลิตปีนี้ จากเดิมตั้งเป้าหมายไว้ว่าตลอดปีจะผลิตได้ 2 ล้านคัน เพิ่มอีก 100,000 คัน เป็นเป้าหมายใหม่ 2.1 ล้านคัน
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมิถุนายนปีนี้ดีขึ้น มียอดขายรวมทั้งสิ้น 87,854 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 25.9 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมร้อยละ 3.4 ยอดขายภายในประเทศปรับตัวขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ดีขึ้น และแนวโน้มการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่ายรถยนต์ต่างแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้น ภาคการก่อสร้างเริ่มดีขึ้น ผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นและมีราคาดี ด้านการส่งออกและนำเข้าก็เพิ่มขึ้นด้วย ด้านผู้มีรายได้น้อยได้รับการช่วยเหลือ รวมทั้งนักท่องเที่ยวยังเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้น ด้านยอดขายในประเทศสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้ มียอดรวม 489,118 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 19.3 ยอดขายในประเทศตลอดปีนี้เป้าหมายอยู่ที่ 970,000-980,000 คัน
ส่วนการเดือนมิถุนายน ผลิตรถยนต์ได้ 188,970 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 7.71 จำนวนรถยนต์ที่ผลิตสะสมตั้งแต่มกราคมถึงมิถุนายน 1.056 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 11.1 ด้านการส่งออกรถยนต์เดือนมิถุนายนส่งออกได้ 95,284 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 2.36 การส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด ยกเว้นออสเตรเลียและตลาดยุโรป ขณะที่การส่งออกไปตลาดตะวันออกกลางกลับมาเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับยอดส่งออกรถยนต์สะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน มียอดรวม 561,960 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 4.7 6 ตลอดปีนี้ตั้งเป้าส่งออกไว้รวม 1.1 ล้านคัน ยอดส่งออกมีแนวโน้มทำได้ตามเป้าหมายและอาจเกินเล็กน้อย. – สำนักข่าวไทย