ก.พลังงานพับแผนบี 10พร้อมใช้เงินกองทุนน้ำมัน 3
พันล้านบาทตรึงแอลพีจี
กรุงเทพฯ 16
ก.ค.-กระทรวงพลังงานดูแลราคาแอลพีจีไม่ปรับขึ้น โดยใช้เงินบัญชีน้ำมันอุดหนุน ไม่เกิน 3
พันล้านบาท พร้อมประกาศในเวทีสหประชาชาติ ไทยใช้สนับสนุนพลังงานทดแทนเพื่อความยั่งยืน
ด้วยการสนับสนุนใช้ บี 20 ในรถบรรทุก และโครงการโซลาร์ลอยน้ำ ส่วนบี 10 พับแผนประกาศใช้หลังค่ายรถยนต์ไม่รับประกันและคาดปาล์มอาจไม่เพียงพอ
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า
กระทรวงพลังงานร่วมมือลดผลกระทบราคาปาล์มตกต่ำ
โดยศึกษาหลายแนวทางทั้งการผสมไบโอดีเซลบี 10 และการประกาศใช้ บี 20
สำหรับรถบรรทุกเป็นประเทศแรกของโลก โดยพบว่า หากใช้บี 20 ตามแผนคือใช้ครึ่งหนึ่งของรถบรรทุกในประเทศ
หรือประมาณ 4 แสนคัน จะมียอดใช้ บี 20 ประมาณ 15 ล้านลิตรต่อวัน
จะดูดซับน้ำมันปาล์ม(ซีพีโอ )ส่วนเกินได้ 6-7 แสนตัน/ปี จากที่คาดว่าปีนี้จะมี
ซีพีโอ ราว 2.5 แสนตัน ใช้เพื่อการบริโภค 9 แสนตัน โดยที่เหลือ 1.6 แสนตัน จะนำมาใช้เพื่อผลิตไบโอดีเซล
บี 7(มาตiฐานน้ำมันทั่วไป ) ราว 1.2 ล้านตัน ที่เหลือ จะเป็นการนำมาใช้เพื่อผลิต
บี 20 ดังนั้น กรณี บี 10 จึงเห็นว่า ไม่มีการประกาศใช้ เพราะ
ผลผลิตปาล์มอาจไม่เพียงพอ และที่สำคัญ ค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็ไม่ยอมรับมาตรฐานบี 10
แต่ กระทรวงฯจะยังคงศึกษาต่อไป ในขณะที่การใช้บี 20 ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งต่ำ
จึงเชื่อมั่นว่า
ผู้ประกอบการขนส่งจะไม่นำส่วนนี้มาขึ้นค่าโดยสารและค่าขนส่งแต่อย่างใด
“การใช้บี 20
เป็นรายแรกของโลก เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเรื่องนี้
และเรื่อง Floating Solar (โซลาร์ลอยน้ำ) ตนได้รายงานต่อที่ประชุมสหประชาชาชาติว่าด้วยความยั่งยืน
ด้านพลังงาน( UN SDGs -7 ) โดยทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นพลังงานทดแทน ที่ตอบโจทน์การเข้าถึง มั่นคง
และยั่งยืน โดยในส่วนของราคาไม่แพง ทางรัฐบาลไทยยังกำหนดข้อสนับสนุนหลัก คือ
ค่าไฟฟ้าสนับสนุนพลังงานทดแทนจะต้องไม่แพงกว่าค่าไฟฟ้าขายส่งของประเทศที่ประมาณ
2.40 บาท/หน่วย โดยไม่ได้นำเรื่องการศึกษาจัดตั้งบริษัท RPS เพื่อบริหารจัดการไฟฟ้า3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปรายงานแต่อย่างใด เพราะอยู่ในระหว่างการศึกษา” นายศิริ กล่าว
นายศิริ ยังกล่าวด้วยว่า
กระทรวงพลังงานยังติดตาม สถานการณ์ราคาก๊าซหุงต้มอย่างต่อเนื่อง และยังดูแลภาคประชาชน
กำหนดระดับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) ภาคครัวเรือน ขนาดถัง 15 กิโลกรัม ไว้ที่ 363 บาทต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2561 โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ในส่วนของบัญชีแอลพีจี ไปอุดหนุน ซึ่งรับทราบว่าล่าสุด
ติดลบกว่า 100 ล้านบาท กรณีนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ยังไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงิน เพราะสามารถเอาเงินในกองทุนน้ำมันในบัญชีน้ำมันที่มีกว่า
3 หมื่นล้านบาท เข้าไปดูแลได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มี นายศิริ จิระพงษ์พันธ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้อนุมัติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯบัญชีน้ำมันมาดูแลแอลพีจี
ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และให้บัญชีแอลพีจีมาใช้คืน
เมื่อสถานการณ์ราคาแอลพีจีลดลง และกองทุนฯสามารถเก็บเงินเข้ากองทุนได้
ซึ่งล่าสุด บัญชีแอลพีจี ได้ใช้เงินบัญชีน้ำมันกว่า
100 ล้านบาท
ทั้งนี้
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด วันที่ 15 ก.ค. 2561
มีเงินสะสมรวมอยู่ที่ 29,556 ล้านบาท แบ่งเป็น
บัญชีน้ำมัน อยู่ที่ 29,673 ล้านบาท และบัญชี แอลพีจี ติดลบ
อยู่ที่ 117 ล้านบาท ซึ่งนับว่า เป็นการติดลบครั้งแรก
หลังจากที่มีการแบ่งบัญชี–สำนักข่าวไทย
