กรุงเทพฯ 2 ส.ค.- กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบต่อเนื่องจากการอุดหนุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้ม (LPG) นับตั้งแต่โควิดระบาด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความผันผวนของราคาพลังงาน และการกลับมาตรึงราคาดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร เข้าสู่สถานะปัจจุบัน 2567 ที่แม้จะขยับเพดานราคาดีเซลขึ้นมาที่ 33 บาทต่อลิตรแล้ว แต่ก็ยังเกิดวิกฤตจากสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเอง จนทำให้ปัจจุบันติดลบ 111,663 ล้านบาท มั่นใจจ่ายคืนเงินต้นที่กู้แบงก์ก้อนแรกได้ตามกำหนด พ.ย.นี้ หลังกองทุนมีเริ่มรายรับวันละกว่า 88.15 ล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้เข้ามารับตำแหน่งช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2563 สถานการณ์พลังงานในขณะนั้นอยู่ในภาวะชะลอตัวจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กิจกรรมด้านเศรษฐกิจมีความเคลื่อนไหวน้อยทำให้การบริโภคพลังงานลดลงตามไปด้วย ซึ่งในขณะนั้นฐานะกองทุนน้ำมันฯ เป็นบวกประมาณ 30,000 ล้านบาท เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายการบริโภคน้ำมันกลับมามีอัตราเติบโตทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น กองทุนน้ำมันฯ เริ่มชดเชยก๊าซ LPG ตรึงอยู่ที่ 318บาท/ถัง ขนาด 15 กก. เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ภาคครัวเรือน
ในต้นปี 2565 เกิดสงครามสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเคยพุ่งทะลุระดับ 120 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล กองทุนน้ำมันฯ ต้องชดเชยราคาน้ำมันดีเซลในประเทศให้อยู่ที่ราคา 30 บาท/ลิตร โดยเคยชดเชยสูงสุดถึง 14 บาท/ลิตร กองทุนน้ำมันฯ ในเวลานั้นติดลบราว 130,000 ล้านบาท จำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันไดถึง 35 บาท/ลิตร จึงได้มีการแก้ไขกรอบวงเงินกู้ ตามมาตรา 26 วรรคสาม โดย ครม.มีมติขยายกรอบเป็น 150,000 ล้านบาท และขอให้รัฐบาลอนุมัติออกพระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 เพราะกฎหมายกองทุนน้ำมันฯ มีกรอบวงเงินกู้ยืมได้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินในการปล่อยกู้ให้กับกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงินกู้ 105,333 ล้านบาท ซึ่งกำลังจะถึงกำหนดเวลาทยอยจ่ายคืนเงินต้นในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้
ในช่วงต้นปี 2566 สถานการณ์ราคาน้ำมันเริ่มผ่อนคลาย กองทุนน้ำมันฯ ได้มีการลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงจำนวน 6 ครั้ง เหลือ 32 บาท/ลิตร ในช่วงเดือนพฤษภาคมและในช่วงเวลาที่ลดการชดเชยก็เริ่มมีการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จนทำให้สถานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบลดลงเหลือประมาณ 49,000 ล้านบาท ต่อมาเมื่อได้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้มีการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 30 บาท/ลิตร ขณะที่มาตรการลดภาษีสรรพสามิตที่เคยเข้ามาเป็นกลไกช่วยพยุงราคาดีเซลอีกทางหนึ่งได้หมดอายุลง ทำให้กองทุนน้ำมันฯ เป็นกลไกหลักเดียวในการพยุงราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ดี มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ได้มีมาตรการการตรึงราคาน้ำมันดีเซล กำหนดเพดานเป็นไม่เกิน 33 บาท/ลิตร ไว้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องกองทุนน้ำมัน ส่วนราคาก๊าซ LPG ตรึงไว้ที่ 423 บาท/ถังขนาด 15 กก. ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 23 กรกฎาคม 2567 ได้ขยายมาตรการตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 33 บาท/ลิตร เป็นรอบที่สอง ออกไปอีก 3 เดือน ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2567 โดยให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ แต่อัตราการชดเชยต้องไม่เกิน 2 บาท/ลิตร โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ติดลบ 111,663 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 64,066 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 47,597 ล้านบาท ในส่วนของประมาณการสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด
มีรายรับประมาณวันละ 88.15 ล้านบาท แบ่งเป็นรายรับประเภทน้ำมันวันละ 81.76 ล้านบาท และรายรับก๊าซ LPG วันละ 6.39 ล้าน แต่กองทุนน้ำมันยังมีการชดเชยน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 0.40บาท/ลิตร คิดเป็นรายจ่ายประมาณวันละ 26.73 ล้านบาท หรือประมาณ 829 ล้านบาทต่อเดือน
“ตอนนี้กองทุนเริ่มมีเงินไหลเข้ามาแล้ว 88.15 ล้านบาท/วัน หรือราวๆ 2733 ล้านบาท/เดือน ซึ่งทำให้มั่นใจว่ากองทุนน้ำมันมีความสามารถชำระหนี้เงินต้นที่กู้จากสถาบันการเงิน ตามกำหนดเวลา 2 ปีได้ โดยเดือนพฤศจิกายนนี้ จะต้องคืนเงินต้นประมาณ 1 พันล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเดือนละ 150-200 ล้านบาท/เดือน และ ตอนนี้ก็พยายามทำแผนออกมาว่าแต่ละเดือนจะต้องเก็บเงินจำนวนเท่าไหร่ และผมซึ่งกำลังจะหมดวาระผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงคนต่อไปเร่งฟื้นฟูสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันให้กระเตื้องขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ค้าน้ำมันตลอดจนสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้“ นายวิศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึง กรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะยุบกองทุนน้ำมันฯ นายวิศักดิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า การยุบกองทุนน้ำมันขอไม่ตอบเพราะเป็นเรื่องนอกเหนือจากที่ตนเองจะให้ความเห็นได้ แต่ตนบอกได้ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันฯ มีประโยชน์ ตามมาตรา 5 คือรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อเกิดวิกฤต ซึ่งตลอด 4 ปีที่ตนเองดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการมันก็เกิดวิกฤตจริงๆ และใน ปี 2565 เป็นตัวชี้วัดว่า ทุกหน่วยงานทั้งแบงก์ชาติ สภาพัฒน์ ต่างทองว่ากลไกกองทุนน้ำมันสามารถข่วยกู้วิกฤตได้. -517-สำนักข่าวไทย