“น.อ.อนันท์” เล่าภารกิจสู้น้ำ-ความมืดในถ้ำหลวง 13 ชีวิตทิ้งไม่ได้

กทม. 11 ก.ค.-“น.อ.อนันท์” เล่าภารกิจสุดหินของหน่วยซีล จากชาวทะเล เมื่อต้องปฏิบัติภารกิจในถ้ำหลวงค้นหา 13 ชีวิตทีมหมูป่า ไม่ง่ายอย่างที่คิด


น.อ.อนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เล่าการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยซีลในถ้ำหลวง กล่าวว่า ผมเข้าพื้นที่ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ ถึงพื้นที่บริเวณหน้าถ้ำหลวง เวลา 02.45 น. หลังฟังบรรยายหน้าถ้ำ ได้เข้าไปในถ้ำเวลา 04.00 น. พวกเราเป็นชาวทะเล จากการฟังบรรยายสรุป ก็นึกภาพไม่ออกว่าสถานที่เกิดเหตุจะเป็นอย่างไร ถ้ำก็น่าจะมีแสงสว่างให้เราพอทำงานได้บ้าง หลังจากฟังบรรยายสรุปเสร็จก็มั่นใจว่าภารกิจนี้ไม่น่ายาก เพราะเรารู้แล้วว่าเด็กไปทางไหน แต่ก้าวแรกที่ก้าวเข้าไปในถ้ำ “รู้แล้วว่าไม่ใช่งานง่ายละ” ในถ้ำมืดสนิท เส้นทางจากปากถ้ำไปยังสามแยกที่คาดว่าเด็กๆ จะเข้าไปเกือบ 3 กม. อาจจะต้องปีนโขดหินที่คล้ายๆ หน้าผา บางช่วงก็ลอดรูเล็กๆ เข้าไป 


วันแรกเราไปถึง 3 แยกประมาณตี 5 ครึ่ง เราเริ่มดำน้ำ 7 โมงเช้า สามารถทะลุไปอีกฝั่งหนึ่งที่คิดว่าเด็กๆ จะไปถึงประมาณระยะหนึ่ง ตลอดเส้นทางสังเกตว่าผนังถ้ำเป็นโคลนหนา ประมาณได้เลยว่าถ้ำนี้เคยมีน้ำท้วม พัดโคลนมาเต็มถ้ำ ขณะที่เราทำงานอยู่ 3 แยก น้ำจะไหลมาจากเส้นทางบ้านผาหมี เวลาตี 5 ถึง 4 โมงเย็น เราทำงานจนลืมเวลา แต่ก็สังเกตน้ำอยู่เรื่อยๆ ว่าน้ำขึ้นตลอดเวลา 4 โมงครึ่ง น้ำขึ้นเร็วมาก จากชั่วโมงละ 3 เซนติเมตร เป็นชั่วโมงละ 8 เซนติเมตร, 13 เซนติเมตร ประมาณสถานการณ์แล้วว่าน่าจะเกิดอันตรายเพราะฝนตกตลอด ไม่รู้ว่าน้ำจะหลากเข้ามาในถ้ำเมื่อไหร่ เราต้องรีบถอนตัว ก็ได้เสนอผู้ว่าฯ ถ้าเราจะทำงานได้ ต้องสูบน้ำ เพราะเรานึกภาพว่าน้ำเต็มท่อ 3 กิโลเมตร, 4 กิโลเมตร เราไม่รู้ว่าจะมีโพรงโผล่หายใจได้หรือไม่ ผู้ว่าก็ระดมสรรพกำลังสูบน้ำ แต่การสูบน้ำก็ลดน้อยมาก ซึ่งเราไม่สามารถรอเวลาได้ เพราะเวลาล่วงเลยมามากแล้ว จำเป็นต้องเดินหน้าต่อ

ในช่วงที่รอน้ำลด ทีมงานของเราก็ทำการดำน้ำเพื่อวางไกด์ไลน์ไปเรื่อยจากโถง 3 ถึง 3 แยก เราก็สามารถวางเบสไลน์ถึง 3 แยกได้ โดยที่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่น้ำจะลด ซึ่งก็เป็นที่ว่ามาเราต้องขอรับการสนับสนุนขวดอากาศอีกหลาย 100 ขวด ในช่วงสูบน้ำไปเรื่อยๆ เราก็วางเบสไลน์ไปเรื่อยๆ จนถึงชุดสุดท้ายของนักดำอังกฤษที่เข้าไปถึงตรงที่เด็กๆ อยู่ 


นักดำอังกฤษออกจากโถง 3 ไปจนพบเด็กแล้วกลับมาบอกว่า พบเด็กๆ แล้ว ใช้เวลาในการดำน้ำ 5 ชั่วโมงครึ่ง พวกเราก็โอเค นักดำต่างชาติดำถึงแล้ว วางไกด์ไลน์เรียบร้อยแล้ว เราก็ประเมินว่าน่าจะไม่เกิน 500-700 เมตร เราประเมินแล้วว่าเราน่าจะไปได้ ทีมงานเราจึงเตรียมเสบียง น้ำ อาหารเจลพลังงาน แผ่นฟอยล์ที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น โดยส่งทีมแรกไปเป็นซีลทั้งหมด จำเวลาไม่ได้ เพราะเราทำงานแบบไม่รู้วัน เราจะดูแค่ว่าอีกกี่ชั่วโมงเราจะออก นักดำน้ำที่เราส่งเข้าไปจะกลับ เราส่งนักดำน้ำไปโดยคัดคนที่คิดว่าเจ๋งที่สุดแล้ว 4 คนออกไป ชั่วโมงต่อไปก็ส่งไปอีก 3 คน ในนั้นมีหมอภาคย์ด้วย 1 คน เพื่อให้ไปดูแลเด็กๆ 

“เชื่อมั้ยว่า 2 ทีมที่ส่งไป ขาดการติดต่อไป 23 ชั่วโมง นี่คือความเครียดของผู้ปฏิบัติที่ส่งลูกน้องออกไปทำงานแล้วไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย” เพราะเราประเมินแล้วต่างชาติดำ 5 ชั่วโมงครึ่ง ศักยภาพเราอย่างมากก็อาจเป็น 7 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง ต้องกลับ แต่ 8  ชั่วโมงก็แล้ว 10 ชั่วโมงก็แล้ว 20 ชั่วโมง จน 23  ชั่วโมงผ่านไป ชุดซีลชุดแรกจึงกลับมาที่โถง 3 กลับมาก็กลับมาแค่ 3 คน เพราะที่เหลือที่ดำเข้าไปโดยใช้ขวดอากาศคนละ 4 ถัง ดำเกือบหมดทุกคน มี 3 คนที่พอจะมีอากาศเหลือดำกลับมาที่โถง 3 เพื่อรายงานข่าว ก็เป็นเหตการณ์ที่ผู้รับผิดชอบตรงหน้างานเครียดตลอดเวลา

เพราะว่าความยากของงานนี้ก็คือ 1.ความมืด 2.เป็นงานใหม่ที่เราไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน 3.ความเย็นของน้ำในถ้ำ 4.เราไม่รู้ว่าน้ำจะมาอีกเมื่อไหร่ ปัจจัยต่างๆ คือความเสี่ยงที่เราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา แต่เรามีทีมนักฟุตบอลอยู่ 13 ชีวิตที่รอคอยเราอยู่ เราทิ้งไม่ได้ โดย 3 คนที่กลับมาต้องเข้าโรงพยาบาลทั้งหมด เพราะสภาพร่างกายแย่มาก เมื่อเราเจอสถานการณ์แบบนี้เราต้องคิดใหม่แล้วว่าเราจะเดินต่อไปอย่างไร

ทุกครั้งที่ผู้บังคับบัญชามาให้กำลังใจ ทุกครั้งที่มีรายงานจากข้างนอกถ้ำว่าเดินสำรวจบนเขาแล้วไม่มีช่อง ไม่มีรูที่จะเข้าไปหาน้องๆ ได้ ความหวังที่เป็นไปได้มากที่สุดแม้ว่าจะมีโอกาสน้อยก็คือทางน้ำเท่านั้น ก็เป็นแรงกดดันที่เราจะต้องเดินต่อ เราก็มาปรับแผนใหม่ว่าถ้าจะดำไปหาเด็กๆ ได้ก็ต้องวางขวดอากาศเป็นระยะ เป็นที่มาว่าเราระดมขวดมา แล้วก็จัดทีมออกไปวางขวดอากาศ

ทุกครั้งที่ส่งลูกน้องออกไปทำงาน 10 ชั่วโมงก็มี 7 ชั่วโมงก็มี 3 ชั่วโมงบ้าง กว่าเขาจะกลับมาให้เราเห็นว่าเขายังมีชีวิตอยู่ นี่คือความยากของมัน จนวันที่มีเหตุการณ์ที่พวกเราก็ทราบว่า “จ่าแซม” ในคืนวันนั้นท่านก็รับอาสาไปวางขวดอากาศร่วมกับทีมนักดำน้ำต่างชาติ ท่านออกไปกับทีมต่างชาติ 4 คน คนไทย 2 คน โดย 1 ในนั้นคือ “จ่าแซม” ซึ่งต่างชาติไปวางขวดอากาศกลับมาใช้เวลา 3 ชม. ส่วน “จ่าแซม” กับอีกท่าน 5 ชั่วโมงผ่านไป 6 ชั่วโมงผ่านไป 7 ชั่วโมงผ่านไปไม่กลับทั้ง 2 คน แต่ประเมินสถานการณ์เข้าข้างตัวเองว่า ลูกน้องเราอาจจะเหนื่อยแล้วพัก จนประมาณตี 1 คู่บัดดี้ดำกลับมาที่โถง 3 คนเดียว แล้วแจ้งว่าเกิดเหตุไม่ดีขึ้น ก็เป็นคืนที่เราสูญเสีย แต่ว่าสูญเสีย 1 ชีวิตกับอีก 13 ชีวิตที่ยังรอเราอยู่ ก็ต้องเดินหน้าต่อ

ทุกคนยอมรับในความเสี่ยง เพราะหน่วยเราถูกฝึกมาเพื่อรับภารกิจเสี่ยงอยู่แล้ว ในเรื่องความสูญเสียเราก็เตรียมใจอยู่แล้ว สุดท้ายถือว่างานนี้เป็นโอกาสดีของหน่วยงานของผมเองที่ได้ร่วมงานกับนักดำน้ำระดับโลก ทำให้เราได้เห็นวิธีการ แนวทางเทคนิคในการดำน้ำในถ้ำ เพื่อที่เราจะได้พัฒนาขีดความสามารถเพื่อรองรับอุบัติภัยของเราในอนาคต” น.อ.อนันท์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง