ระยอง 4 ก.ค.- นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการบริหารจัดการขยะเมืองระยอง ยกเป็นโครงการต้นแบบท้องถิ่นที่ดี พร้อมหนุนงบฯขยายโครงการเพิ่มเพื่อรองรับอีอีซี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร และรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการโครงการบริหารจัดการขยะครบวงจรจังหวัดระยอง และโครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง (Refuse Derived Fuel : RDF) ที่ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร ต.น้ำคอก อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นโครงการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 67 แห่ง ลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมพัฒนาระบบจัดการมูลฝอยที่ครบวงจรแบบศูนย์รวม มุ่งเน้นการลดและคัดแยกขยะ ตั้งแต่1,000 ตัน ด้วยระบบแบบผสมผสาน โดย อบจ.ระยอง ได้ร่วมกับบริษัท โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เพื่อพัฒนาระบบการจัดการขยะมูลฝอยที่มุ่งไปสู่เทคโนโลยีการแปลงขยะมูลฝอยเป็นพลังงาน
โดยเทคโนโลยีคัดแยกขยะแปลงเป็นเชื้อเพลิง สามารถนำขยะสดแปลงเป็นเชื้อเพลิง ใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าและโรงปูนซีเมนต์ได้ ส่วนขยะอินทรีย์นั้นใช้ผลิตเป็นสารปรับปรุงดินให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่อไป ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นแนวทางที่เกิดประโยชน์สูงสุดกับจังหวัดระยองและเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ โดยเฉพาะพื้นที่อีอีซี โดยคาดว่าจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจและประชากรในระดับสูง ทั้งยังเป็นการสร้างมูลราคาเพิ่มให้กับขยะชุมชน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการโครงการบริหารจัดการขยะครบวงจร โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน รวมถึง นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เข้าร่วม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอชื่นชม จ.ระยอง ที่มีการบริหารจัดการขยะที่ดี และเป็นแบบอย่างให้กับที่อื่น และวันนี้ รู้สึกดีใจที่ได้มาเยี่ยมและดูการบริหารจัดการขยะ ที่จะต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหา เพราะวันนี้ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องมาทำงานร่วมกัน ซึ่งต้องทำให้กระบวนการบริหารจัดการมีความยั่งยืน มีประสิทธิภาพมากที่สุด และพร้อมมารับฟังปัญหา โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งดำเนินการวางแผน และจัดทำโครงการ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะ อย่างเป็นรูปธรรม ในส่วนของการสนับสนุนงบประมาณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจรแห่งนี้ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ แต่จะต้องทำให้ถูกต้อง ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ตามระเบียบของราชการ ทำทุกอย่างไม่ให้เกิดปัญหาในภาคหน้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมแก้ไขระเบียบและกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า แต่ระหว่างนี้ขอให้หน่วยงานไปวางแผนโครงการให้ต่อเนื่องในระยะยาว เพราะพื้นที่จ.ระยอง คือพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC ซึ่งต้องจัดการกับขยะใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น และจะมีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นให้วางแผนบริหารจัดการให้ดี ในส่วนของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันไม่ให้เกิดการลักลอบนำเข้ามาในประเทศ ส่วนปัญหาขยะทางการแพทย์ ได้ฝากให้จังหวัดประสานกับกระทรวงสาธารณสุขนำไปจัดการ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอฝากให้คำนึงถึงการพัฒนาในพื้นที่ จะต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมและยังฝากให้ข้าราชการ ผู้นำส่วนท้องถิ่น ปรับเปลี่ยนการทำงาน รวมถึงฝากให้ครู ปรับเปลี่ยนการสอน อย่าสอนตามตำรา ให้นำทักษะ และเทคนิคมาประยุกต์สอนให้นักเรียนเข้าใจง่าย ให้เน้นการทำงานแบบบูรณาการ
ท้ายสุด นายกรัฐมนตรี ขอให้คนไทยต้องช่วยกัน เจริญเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามวิสัยมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ด้านนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกฯ อบจ.ระยอง ขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม เนื่องจากหลุมฝั่งกลบขยะที่ 4 ใกล้จะเต็ม ซึ่ง อบจ.พยายามเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างฟังบรรยายสรุปดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่เคยเกลียดใคร เพียงขออย่ามายุ่งกับตนเกินไป และขอให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีอะไรขอให้คุยกัน อย่าโทษกันไปมา ทั้งนี้ขอให้นายสนธยา ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พูดคุยกับนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีที่มีข้อสงสัย.-สำนักข่าวไทย