พล.ต.สรรเสริญ ปัดเร่งรัดดำเนินคดี ยิ่งลักษณ์

kai auu - 7-7-2558 16-41-15กรุงเทพฯ 24 ก.ย.-โฆษกรัฐบาล เผย การดำเนินคดีการบริหารจัดการน้ำ และคดีทุจริตจำนำข้าว เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม จี้ทนายความ ให้ข้อมูล และอธิบายให้ “ยิ่งลักษณ์” เข้าใจ


พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุ ไม่เข้าใจทำไมจึงถูกดำเนินคดีในประเด็นการบริหารจัดการน้ำ ทั้งที่การบริหารจัดการน้ำมีมาก่อนที่รัฐบาลเพื่อไทยจะมาบริหาร และมีเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายรัฐบาล ว่า อยากให้ดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  หากเป็นเหตุการณ์ฝนตก น้ำท่วม ตามธรรมชาติ คงไม่มีใครคิดจะดำเนินคดีใครได้ แต่ความบกพร่องในการบริหารจัดการ  ด้วยการระบายน้ำที่ไร้การวางแผนจนเป็นเหตุทำให้น้ำท่วมขังเป็นเดือน ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงกรุงเทพฯ สร้างความเสียหายให้ประเทศมหาศาล  และประเด็นการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่โปร่งใส มีข้อครหาในการจัดสรรงบประมาณเพื่อบริหารจัดการน้ำ เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์  และนำไปสู่การตรวจสอบเป็นคดีความ จึงอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าใจให้ตรงประเด็น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงคำสั่ง ม.44 ให้อำนาจกรมบังคับคดียึดทรัพย์ ว่า เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ซึ่งสามารถดำเนินการคู่ขนานกับคดีอาญา ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้  และมั่นใจว่าศาลจะพิจารณาทุกอย่างโดยยุติธรรมตามหลักฐานข้อมูล  ไม่มีใครหรือสิ่งใด มามีอิทธิพลหรือชี้นำการตัดสินใจของศาลได้  ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ควรระมัดระวังในการกล่าวว่าศาลจะถูกชี้นำ เพราะอาจเข้าข่ายดูหมิ่นศาล


“ขอยืนยันอีกครั้งว่าคดีความต่าง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลนั้น เป็นการพิจารณาตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมทุกประการ ไม่ได้เร่งรัด หรือดำเนินการแตกต่างไปจากคดีอื่น ๆ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ควรนำไปเปรียบเทียบกับคดีความในอดีต  ที่นักการเมืองแทบจะไม่เคยถูกดำเนินคดี  เนื่องจากกฎหมายเอื้อมไม่ถึง จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ส่งผลให้คนผิดลอยนวลต่อไป  รัฐบาลชุดนี้ ต้องการทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย มีมาตรฐาน และอำนวยความยุติธรรมให้ทุกคน มิใช่แต่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า อยากฝากทีมทนายความว่าควรจะช่วยอธิบายให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าใจถึงการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นในอดีตจนนำมาสู่คดีความในปัจจุบัน เพราะการ ที่มาให้สัมภาษณ์ทำนอง นั่งอยู่ดี ๆ ก็ต้องมารับเรื่องคดีทั้งหมด  สะท้อนถึงการขาดข้อมูลที่ควรจะได้รับ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”