อุบลราชธานี 13 ต.ค. – น้ำท่วมอุบลฯ ปีนี้ ทำลายสถิติปี 62 ถือเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบกว่า 43 ปี ประชาชนสัญจรลำบาก ต้องใช้เรือท้องแบน และรถยกสูงขนาดใหญ่เท่านั้น
ระดับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M7 ในเช้าวันนี้ อยู่สูงกว่าตลิ่งที่ระดับ 4.50 เมตร และระดับน้ำยังนิ่ง ซึ่งส่งผลทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนริม 2 ฝั่งแม่น้ำ มากว่า 1 เดือนแล้ว บ้านพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่สามารถพักอาศัยได้ ส่วนที่อยู่ชั้น 2 เริ่มอพยพไปอยู่ที่อื่น
บริเวณสะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี จากเดิมที่เป็นสะพานสัญจรของรถที่ข้ามจากเมืองอุบลราชธานีไป อำเภอวารินชำราบ กลายมาเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ของชาวบ้านหาดสวนยา กว่า 1 เดือน หลังจากต้องย้ายที่อพยพมาเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันประกอบอาหาร แจกจ่ายกันเองในชุมชน โดยสิ่งที่ชุมชนต้องการมากที่สุด คือ สุขาเคลื่อนที่ เนื่องจากต้องไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกล
และบริเวณสะพาน รัตนโกสินทร์ 200 ปี ยังเป็นจุดขึ้นเรือท้องแบน ของหน่วยงานราชการ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อยจัดคิวให้ประชาชนที่เดินทางจากฝั่งอุบลราชธานี ไปทำงานที่ฝั่งอำเภอวารินชำราบ โดยมีเสื้อชูชีพให้ทุกคนส่วมใส่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวมาก ประชาชนที่ขึ้นเรือต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยเฉพาะเวลาเรือแล่นสวนกัน
ส่วนที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช เป็นจุดให้บริการ รถยกสูงขนาดใหญ่ ของทางเจ้าหน้าที่ทหาร และงานจิตอาสา ลำเลียงประชาชนกลับบ้าน และเดินทางไปทำงาน โดยมี 2 เส้นทาง จากอำเภอเมืองไป เซ็นทรัลอุบลฯ และไปที่อำเภอวารินชำราบ ประชาชนให้ข้อมูลว่า ต้องออกจากบ้านเช้ามากขึ้น เนื่องจากการเดินทางต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง กว่าจะถึงที่ทำงาน และช่วงเลิกงานค่อนข้างมืด และน้ำไหลเชี่ยวมาก
เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยชาย อายุ 62 ปี มีอาการเจ็บหน้าอกร้าวมาแขน แพทย์โรงพยาบาลน้ำยืน วินิจฉัยว่าเป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน จึงประสานขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 ลำเพื่อรับผู้ป่วยโดยได้รับการสนับสนุนทีม Sky Doctor จากโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ไปรับผู้ป่วย ณ สนามจอด ฮ. ชั่วคราว หน้าที่ว่าการอำเภอน้ำยืน ทั้งนี้ทีมรถพยาบาลฉุกเฉินของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้เตรียมความพร้อม มารอรับผู้ป่วยและสามารถนำส่งผู้ป่วยถึงห้องสวนหัวใจโดยปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย