กรมอนามัย 18 มิ.ย.-กรมอนามัย เผยอาการผลข้างเคียงยาฝังคุมกำเนิดอาจเป็นสิว ปวดศีรษะ พร้อมย้ำเป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง
นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ยาฝังคุมกำเนิดเป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวรที่มีประสิทธิ ภาพสูง สามารถคุมกำเนิดได้ในระยะเวลา3 ปีและ5 ปี ไม่มีผลรบกวนต่อการมีเพศสัมพันธ์ สามารถใช้ในสตรีระยะให้นมบุตรโดยไม่มีผลไปรบกวนปริมาณและคุณภาพของน้ำนม และเมื่อหยุดใช้ยานี้แล้ว สามารถมีบุตรได้ตามปกติทันทีหลังหยุดใช้ยา แต่การฝังยาคุมกำเนิดอาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อย เช่น เป็นสิว ปวดศีรษะ หรือประจำเดือนมากระปริดกระปรอย ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปได้เองภายใน 6 เดือน บางรายอาจมีการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยที่หลากหลายซึ่งปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่สามารถยืนยันอย่างชัดเจนว่าการเพิ่มของน้ำหนักตัวเป็นผลโดยตรงจากยาฝังคุมกำเนิด
นพ.บัญชา กล่าวต่อว่า บางรายอาจพบอาการขาดประจำเดือน ซึ่งผู้ให้ บริการต้องให้คำปรึกษาแก่ผู้รับบริการ รวมทั้งการหาสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะไม่มีประจำเดือน โดยซักประวัติ ตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจภายใน และตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจการตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์นอกมดลูก ถ้าไม่พบสาเหตุอื่นๆก็ให้การปรึกษาซ้ำว่าภาวะนี้พบได้เช่นเดียวกับการฉีดยาคุมกำนิดและจะมีผลดีต่อภาวะโลหิตจาง ถ้าผู้รับบริการมีความวิตกกังวล ควรให้กำลังใจหรือให้ยาเพื่อลดความกังวล และนัดตรวจติดตามถ้ายังมีความวิตกกังวลมากหรือผู้รับบริการไม่ยอมรับภาวะการขาดประจำเดือน อาจต้องพิจารณาถอดยาฝังคุมกำเนิดพร้อมแนะนำวิธีคุมกำเนิดวิธีอื่นที่เหมาะสม โดยควรแนะนำให้ผู้รับบริการฝังยาคุมกำเนิดควบคุมอาหารและออกกำลังกายร่วมด้วย
“ที่ผ่านมากรมอนามัย ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งบรรจุเป็นแผนงานระดับประเทศเพื่อให้วัยรุ่นเข้าถึงบริการคุมกำเนิดชนิดกึ่งถาวร โดยสปสช.สนับสนุนการให้บริการคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวร (ห่วงอนามัยและยาฝังคุมกำเนิด) ให้แก่ประชาชนไทยเพศหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ทุกสิทธิที่อยู่ในภาวะหลังคลอด แท้งหรือต้องการคุมกำเนิด โดยสามารถขอรับบริการได้ที่สถานบริการในเครือข่าย สปสช. ทั่วประเทศ” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย