จ.พิจิตร 11 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบประชาชนจังหวัดพิจิตร ย้ำไม่ได้หาเสียง พิจารณางบประมาณดูความเหมาะสม จำเป็นเร่งด่วน ตำหนิคนทำคลิปถามเด็กเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีทำให้เกิดภาพลบไม่สร้างสรรค์ ให้คณะทำงานตรวจสอบ หากผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันนี้ ได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วยจังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร และจังหวัดอุทัยธานี ตลอดช่วงเช้าจนถึงเที่ยงวันจะอยู่ที่จังหวัดพิจิตร จุดแรกนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปที่วัดท่าหลวงกราบสักการะหลวงพ่อเพชรพระคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่า 880 ปีเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ได้มอบพระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อเพชรขนาด 3 นิ้ว และเหรียญที่ระลึกหลวงพ่อเพชรรุ่นพุทธบารมี ให้แก่นายกรัฐมนตรี และคณะ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมายังบึงสีไฟ Landmark สำคัญของจังหวัด ที่จะถูกเนรมิตให้เป็นสวนสาธารณะที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวพิจิตร บึงนี้มีปัญหาถูกบุกรุก และตื้นเขิน ซึ่งจะมีการปรับปรุงให้เป็นแก้มลิง แก้ปัญหาน้ำท่วมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะกับประชาชนภายในบึงสีไฟ ด้วยความเป็นกันเอง และกล่าวว่า มีความตั้งใจและจริงใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศ แต่การอนุมัติงบประมาณคงไม่สามารถให้ได้ทุกเรื่อง ต้องดูตามความจำเป็นเร่งด่วนและความเหมาะสม เพราะหากให้ทุกเรื่องอาจมองเข้าข่ายเป็นการหาเสียง ซึ่งไม่อยากให้ถูกมองเช่นนั้น เนื่องจากการเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้นำของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ให้เฉพาะพื้นที่ ส่วนการทำเกษตรอยากให้เกษตรกรรู้จักปรับเปลี่ยนปลูกพืชตามความเหมาะสมและความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบุคคลที่ทำคลิปวีดีโอสอบถามความเห็นเด็กเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้เกิดภาพเชิงลบ ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่สร้างสรรค์ หากมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี ขณะนี้ได้ให้คณะทำงานไปตรวจสอบแล้ว ขอให้ทุกคนใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ อย่าหลงเชื่อคำบิดเบือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บึงสีไฟ นายกรัฐมนตรีได้พบกับนายธัชธรรม ศรีทา รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่เปิดเผยเกี่ยวกับความผิดปกติในการจัดซื้อวัตถุดิบ ในโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอตะพานหิน จ.พิจิตร โดยนายธัชธรรมได้แจ้งปัญหาและขอให้เร่งรัดการตรวจสอบความไม่โปร่งใสให้เป็นไปด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะดูแลเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลนี้ หากพบทุจริตจะดำเนินการเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในระหว่างลงพื้นที่บึงสีไฟจังหวัดพิจิตรไม่มีอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และนักการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดพิจิตร มาให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่สะดวก ติดภารกิจ ทำให้ไม่สามารถมาต้อนรับได้
จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังประตูระบายน้ำดงเศรษฐี ซึ่งที่นั่นถือเป็นจุดเริ่มในการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร ให้กลับมามีชีวิต ด้วยการทำงานของเครือข่ายภาคประชาชน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่จังหวัดพิจิตรแล้ว นายกรัฐมนตรีก็จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดนครสวรรค์
สำหรับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ได้เตรียมขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลวงเงินกว่า 5 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม รวม 6 ด้าน 25 โครงการ อาทิเขตเศรษฐกิจชีวภาพและการบริหารจัดการน้ำ ทั้งบึงสีไฟ บึงบอระเพ็ด และแม่น้ำต่าง ๆ รวมไปถึงด้านการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานที่จะเน้นระบบเครือข่ายโลจิสติกส์เชื่อมต่อ รถ รางและเรือ.-สำนักข่าวไทย