อุบลราชธานี 10 มิ.ย.-หนุ่มอุบลฯที่ถูกถ่ายคลิปขณะสำเร็จความใคร่ตัวเองต่อหน้านักศึกษาสาวบนรถสองแถว ดอดเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว อ้างทำไปเพราะความเมา เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับพร้อมอบรมให้เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ก่อนปล่อยตัวไป
จากกรณีนักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี โพสต์คลิปชายรูปร่างท้วม สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีเทา สวมหมวกแก๊ป อายุประมาณ 30-35 ปี กำลังใช้มือช่วยเหลือตัวเอง ขณะนั่งรถโดยสารสองแถวสายสีแดงจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองอุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดวันนี้(10 มิ.ย.) นายเอกราช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อาชีพพ่อค้าขายของตามตลาดนัด ซึ่งเป็นชายในคลิปดังกล่าว ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมรับสารภาพเป็นชายคนเดียวกันที่สำเร็จความใคร่ต่อหน้ากลุ่มนักศึกษาสาว ขณะนั่งรถสองแถวเมื่อวันที่ 31 พ.ค.61 และเมื่อเห็นตัวเองถูกถ่ายคลิป ก็ได้รีบลงจากรถสองแถวที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุบลราชธานี
ต่อมาพบว่าภาพของตนถูกนำไปเผยแพร่ในโลกโชเซียล รวมทั้งมีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง จนมีเจ้าหน้าที่ไปตามหาตนถึงบ้านพัก เพื่อนำตัวไปดำเนินคดี ตนจึงหลบออกจากพื้นที่ไปกบดานอยู่บ้านเพื่อน เพื่อตั้งหลักก่อน เนื่องจากเกรงว่าหากถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดีในช่วงนั้น จะมีนักข่าวติดตามมาทำข่าวของตน ทำให้ตนเกิดความอาย เพราะปกติก็ไม่ใช่คนเช่นนี้ แต่ถ้าเห็นหญิงสาวสวยๆขาวๆ ก็จะเก็บไประบายอารมณ์ในที่อื่น แต่วันนั้นดื่มเหล้าไปเล็กน้อย ทำให้เผลอตัวช่วยเหลือตัวเองบนรถโดยสารสองแถวต่อหน้าผู้โดยสารสาว กระทั่งวันนี้ เห็นเรื่องเงียบ จึงเข้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบข้อหา
พ.ต.ท.ปราโมทย์ จึงว่ากล่าวตักเตือนนายเอกราช ที่ทำให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเกิดความกลัว จน พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี กำชับให้ตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายเอกราช ฐานกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล หรือกระทำการอันลามก พร้อมสั่งเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัวไป
พ.ต.ท.ปราโมทย์ เปิดเผยว่า จากการพูดคุยสอบถาม นายเอกราชก็ยอมรับสารภาพโดยดี และเห็นเป็นคนประกอบอาชีพสุจริต น่าจะไม่เป็นพิษภัยในอนาคต จึงให้โอกาสกลับตัวเป็นคนใหม่ โดยว่ากล่าวตักเตือนและเปรียบเทียบปรับ ก่อนปล่อยตัวไป.-สำนักข่าวไทย