แจ้งความลูกสาวถูกเพื่อนตบตี-ถอดเสื้อยกทรง

ชุมพร 10 ก.ค.-ด.ญ.ชั้น ม.1 ถูกเพื่อนทำร้าย-ถอดเสื้อยกทรง ถ่ายคลิปประจาน พ่อแม่เหยื่อแจ้งความแล้ว


จากกรณีที่มีนักเรียนหญิงทำร้ายเด็กนักเรียนหญิงขณะก้มลงกราบเท้าแล้วตบตีเตะต่อยอย่างรุนแรงนานหลายนาทีและยังจับถอดเสื้อผ้า โดยมีเพื่อนนักเรียนชายใช้โทรศัพท์มือถือยืนถ่ายคลิปให้ แล้วนำไปส่งประจานทางสื่อออนไลน์ มีการแชร์ส่งต่อๆ กัน จนเป็นกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรงของเด็กนักเรียนสมัยนี้ไปต่างๆ นาๆ โดยเหตุเกิดบนสะพานข้ามคลองถนนคอนกรีตในหมู่บ้านนาดอน หมู่ที่ 1 ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ของช่วงเย็นวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว  เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่สถานีตำรวจภูธรท่าแซะ ผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองฝ่าย ได้นำเด็กนักเรียนผู้เสียหายชื่อ เด็กหญิงน้ำ นามสมมุติ อายุ 13 ปี  บ้านอยู่ตำบลท่าแซะ นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง และเด็กนักเรียนหญิงคู่กรณีที่เป็นผู้ก่อเหตุชื่อ เด็กหญิงเก๋ง นามสมมุติ อายุ 13 ปี บ้านอยู่ตำบลทรัพย์อนันต์ นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมกับเพื่อนนักเรียนชายอีก 3 คน วัยเดียวกันที่ร่วมก่อเหตุยืนถ่ายคลิปอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว เข้าพบกับ พ.ต.ท.วิชัย ต้นกันยา รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าแซะ 


จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุมาจาก เด็กหญิงเก่งผู้ก่อเหตุกับเด็กหญิงน้ำผู้เสียหาย เป็นนักเรียนชั้น ม.1 ต่างสถาบันกัน ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่อำเภอเดียวกัน เนื่องจากเด็กหญิงเก๋งผู้ก่อเหตุมีความโกรธแค้นแทนเพื่อนรักที่เห็นเด็กหญิงน้ำผู้เสียหายได้ยืนคุยกับนักเรียนชายที่เป็นแฟนของเพื่อนรักตนเอง ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเด็กหญิงน้ำจะแย่งแฟนของเพื่อนไป จึงพาเพื่อนชาย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหาจนเจอตัวขณะปั่นรถจักรยานอยู่กับน้องชายแล้วบังคับพาไปกลางสะพานข้ามคลองบนถนนในหมู่บ้าน แม้ขณะนั้นเด็กหญิงน้ำจะก้มลงกราบเท้าขอโทษบนพื้นถนนกลางสะพานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ฟังเสียงได้ลงมือทุบตีทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงจนบาดเจ็บมีบาดแผลเขี้ยวช้ำไปทั่วตัว แล้วให้เพื่อนชายยืนถ่ายคลิปจากโทรศัพท์มือถือนำไปส่งไปให้เพื่อนๆ ดูเพื่อประจาน จนมีการส่งต่อๆ กันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ไปทั่วดังกล่าว

ภายหลังการสอบสวน พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่าผู้ปกครองได้นำเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายมาให้ปากคำรวมทั้งผู้ก่อเหตุซึ่งมีเด็กหญิงหนึ่งคนเด็กชายสามคน เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับนักเรียนหญิงผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเด็กหญิงผู้ก่อเหตุเป็นผู้นำคลิปไปส่งต่อให้เพื่อนๆ ส่วนนักเรียนชายอีก 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยไม่ได้ร่วมกันทำร้ายแต่ยืนดูและถ่ายคลิปให้กับผู้ก่อเหตุ จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ร่วมสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะต้องมีเจ้าหน้าที่จากสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวนด้วยเพื่อความเป็นธรรมและเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เพราะผู้เสียหายเป็นเด็กทั้งหมด


ด้าน นางน้อย 50 ปี และนายมาก อายุ 50 ปี นามสมมุติสองสามีภรรยาและเป็นพ่อแม่ของเด็กหญิงเก๋งนามสมมุติผู้ก่อเหตุ กล่าวว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อทราบข่าวและเห็นคลิปที่ลูกสาวไปทำร้ายผู้อื่นถึงกับหมดเรี่ยวแรงเป็นลม ส่วนสาเหตุไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก รู้เพียงว่าลูกสาวเจ็บแค้นแทนเพื่อนแล้วไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ขณะที่ นายเย็น นามสมมุติ อายุ 41 ปี บิดาของเด็กหญิงน้ำนามสมมุติผู้เสียหาย กล่าวว่าหลังทราบข่าวและเห็นคลิปแล้วยอมรับว่าทำใจไม่ได้จริงๆ แต่ได้ถูกญาติๆและผู้ใหญ่หลายฝ่ายห้ามปรามไว้ว่าให้ใจเย็นๆ อย่าทำอะไรวู่วามปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำเนินคดีไปตามกฎหมายจะดีกว่า โดยช่วงเกิดเหตุทราบจากลูกชายอายุ 9 ขวบ มาบอกว่าขณะที่ลูกชายออกไปปั่นรถจักรยานกับเด็กหญิงน้ำ ซึ่งเป็นพี่สาวอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ได้มีเด็กหญิงเก๋งคู่กรณีขับรถจักรยานยนต์มากันสองคันพร้อมกับเด็กชาย 3 คน มาจอดขวางหน้ารถจักรยานที่ลูกสาวตนเองกำลังปั่นโดยมีน้องชายวัย 9 ขวบนั่งซ้อนท้าย แล้วเด็กหญิงน้ำบังคับให้ลูกสาวตนเองนั่งซ้อนท้ายไปด้วย แล้วบอกกับลูกชายว่าห้ามไปบอกพ่อแม่เด็ดขาด แล้วได้ขับพาเด็กหญิงน้ำลูกสาวตนเองออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นลูกชายได้ปั่นจักรยานไล่ตามไปและหาอยู่พักใหญ่แต่ไม่เจอตัว จนกลับมาบอกตนเองแล้วมาเห็นสภาพลูกสาวกลับมาในสภาพถูกทำร้ายจนบาดเจ็บเขียวช้ำไปทั่วตัว แล้วยังมีการส่งคลิปประจานไปทั่ว เมื่อตนเองเห็นภาพแล้วรับไม่ได้จริงๆ จึงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]