แจ้งความลูกสาวถูกเพื่อนตบตี-ถอดเสื้อยกทรง

ชุมพร 10 ก.ค.-ด.ญ.ชั้น ม.1 ถูกเพื่อนทำร้าย-ถอดเสื้อยกทรง ถ่ายคลิปประจาน พ่อแม่เหยื่อแจ้งความแล้ว


จากกรณีที่มีนักเรียนหญิงทำร้ายเด็กนักเรียนหญิงขณะก้มลงกราบเท้าแล้วตบตีเตะต่อยอย่างรุนแรงนานหลายนาทีและยังจับถอดเสื้อผ้า โดยมีเพื่อนนักเรียนชายใช้โทรศัพท์มือถือยืนถ่ายคลิปให้ แล้วนำไปส่งประจานทางสื่อออนไลน์ มีการแชร์ส่งต่อๆ กัน จนเป็นกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรงของเด็กนักเรียนสมัยนี้ไปต่างๆ นาๆ โดยเหตุเกิดบนสะพานข้ามคลองถนนคอนกรีตในหมู่บ้านนาดอน หมู่ที่ 1 ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ของช่วงเย็นวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว  เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่สถานีตำรวจภูธรท่าแซะ ผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองฝ่าย ได้นำเด็กนักเรียนผู้เสียหายชื่อ เด็กหญิงน้ำ นามสมมุติ อายุ 13 ปี  บ้านอยู่ตำบลท่าแซะ นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง และเด็กนักเรียนหญิงคู่กรณีที่เป็นผู้ก่อเหตุชื่อ เด็กหญิงเก๋ง นามสมมุติ อายุ 13 ปี บ้านอยู่ตำบลทรัพย์อนันต์ นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมกับเพื่อนนักเรียนชายอีก 3 คน วัยเดียวกันที่ร่วมก่อเหตุยืนถ่ายคลิปอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว เข้าพบกับ พ.ต.ท.วิชัย ต้นกันยา รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าแซะ 


จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุมาจาก เด็กหญิงเก่งผู้ก่อเหตุกับเด็กหญิงน้ำผู้เสียหาย เป็นนักเรียนชั้น ม.1 ต่างสถาบันกัน ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่อำเภอเดียวกัน เนื่องจากเด็กหญิงเก๋งผู้ก่อเหตุมีความโกรธแค้นแทนเพื่อนรักที่เห็นเด็กหญิงน้ำผู้เสียหายได้ยืนคุยกับนักเรียนชายที่เป็นแฟนของเพื่อนรักตนเอง ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเด็กหญิงน้ำจะแย่งแฟนของเพื่อนไป จึงพาเพื่อนชาย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหาจนเจอตัวขณะปั่นรถจักรยานอยู่กับน้องชายแล้วบังคับพาไปกลางสะพานข้ามคลองบนถนนในหมู่บ้าน แม้ขณะนั้นเด็กหญิงน้ำจะก้มลงกราบเท้าขอโทษบนพื้นถนนกลางสะพานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ฟังเสียงได้ลงมือทุบตีทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงจนบาดเจ็บมีบาดแผลเขี้ยวช้ำไปทั่วตัว แล้วให้เพื่อนชายยืนถ่ายคลิปจากโทรศัพท์มือถือนำไปส่งไปให้เพื่อนๆ ดูเพื่อประจาน จนมีการส่งต่อๆ กันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ไปทั่วดังกล่าว

ภายหลังการสอบสวน พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่าผู้ปกครองได้นำเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายมาให้ปากคำรวมทั้งผู้ก่อเหตุซึ่งมีเด็กหญิงหนึ่งคนเด็กชายสามคน เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับนักเรียนหญิงผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเด็กหญิงผู้ก่อเหตุเป็นผู้นำคลิปไปส่งต่อให้เพื่อนๆ ส่วนนักเรียนชายอีก 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยไม่ได้ร่วมกันทำร้ายแต่ยืนดูและถ่ายคลิปให้กับผู้ก่อเหตุ จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ร่วมสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะต้องมีเจ้าหน้าที่จากสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวนด้วยเพื่อความเป็นธรรมและเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เพราะผู้เสียหายเป็นเด็กทั้งหมด


ด้าน นางน้อย 50 ปี และนายมาก อายุ 50 ปี นามสมมุติสองสามีภรรยาและเป็นพ่อแม่ของเด็กหญิงเก๋งนามสมมุติผู้ก่อเหตุ กล่าวว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อทราบข่าวและเห็นคลิปที่ลูกสาวไปทำร้ายผู้อื่นถึงกับหมดเรี่ยวแรงเป็นลม ส่วนสาเหตุไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก รู้เพียงว่าลูกสาวเจ็บแค้นแทนเพื่อนแล้วไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ขณะที่ นายเย็น นามสมมุติ อายุ 41 ปี บิดาของเด็กหญิงน้ำนามสมมุติผู้เสียหาย กล่าวว่าหลังทราบข่าวและเห็นคลิปแล้วยอมรับว่าทำใจไม่ได้จริงๆ แต่ได้ถูกญาติๆและผู้ใหญ่หลายฝ่ายห้ามปรามไว้ว่าให้ใจเย็นๆ อย่าทำอะไรวู่วามปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำเนินคดีไปตามกฎหมายจะดีกว่า โดยช่วงเกิดเหตุทราบจากลูกชายอายุ 9 ขวบ มาบอกว่าขณะที่ลูกชายออกไปปั่นรถจักรยานกับเด็กหญิงน้ำ ซึ่งเป็นพี่สาวอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ได้มีเด็กหญิงเก๋งคู่กรณีขับรถจักรยานยนต์มากันสองคันพร้อมกับเด็กชาย 3 คน มาจอดขวางหน้ารถจักรยานที่ลูกสาวตนเองกำลังปั่นโดยมีน้องชายวัย 9 ขวบนั่งซ้อนท้าย แล้วเด็กหญิงน้ำบังคับให้ลูกสาวตนเองนั่งซ้อนท้ายไปด้วย แล้วบอกกับลูกชายว่าห้ามไปบอกพ่อแม่เด็ดขาด แล้วได้ขับพาเด็กหญิงน้ำลูกสาวตนเองออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นลูกชายได้ปั่นจักรยานไล่ตามไปและหาอยู่พักใหญ่แต่ไม่เจอตัว จนกลับมาบอกตนเองแล้วมาเห็นสภาพลูกสาวกลับมาในสภาพถูกทำร้ายจนบาดเจ็บเขียวช้ำไปทั่วตัว แล้วยังมีการส่งคลิปประจานไปทั่ว เมื่อตนเองเห็นภาพแล้วรับไม่ได้จริงๆ จึงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย