fbpx

พนักงาน กฟภ. 3 จังหวัดชายแดนใต้แต่งดำต่อเนื่องค้าน RPS

ก.พลังงาน 7 มิ.ย. – กระทรวงพลังงานยังไม่แจงรายละเอียดตั้ง RPS ดูแลไฟฟ้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ สร.กฟภ.ภาคใต้แต่งดำคัดค้านจนถึงสิ้นเดือนนี้ ชี้ชัดตั้งบริษัทขึ้นมาสุดท้ายประชาชนภาคใต้มีความเสี่ยงจากค่าไฟฟ้าที่อาจเพิ่มขึ้น


นายสมชาย อักษรภักดิ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ภาคใต้ เขต 3 กล่าวว่า พนักงาน กฟผ.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยังแต่งชุดดำจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อคัดค้านแนวคิดของรัฐบาลในการจัดตั้งบริษัท RPS (Regional Power System) เพื่อบริหารจัดการระบบไฟฟ้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะไม่มีความชัดเจนว่าตั้งขึ้นแล้วประโยชน์อยู่กับใคร โดยหากในแง่ผู้ใช้ไฟฟ้า 500,000 รายในพื้นที่จะมีความเสี่ยง เพราะบริษัทนี้จะเข้ามาดูแลไฟฟ้าทั้งระบบ ซึ่งบริษัทจะต้องคำนึงถึงกำไรถึงจะอยู่ได้ แต่ปัจจุบันการจำหน่ายไฟฟ้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีกำไร มีการนำเงินจากนอกพื้นที่มาช่วยเหลือ 


ขณะเดียวกันหน่วยงานรัฐในพื้นที่มีการจ่ายค่าไฟฟ้าล่าช้า ทาง กฟภ.ในฐานะรัฐวิสาหกิจก็เอื้อให้จ่ายล่าช้าได้ แต่หากเป็นบริษัทตั้งขึ้นมาแล้วจะดำเนินการรูปแบบนี้ได้หรือไม่ ซึ่งวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ทาง สร.กฟภ.ภาคใต้จะพบผู้บริหาร กฟภ.เพื่อรับทราบการชี้แจงในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันหากตั้งขึ้นเพื่อรองรับโรงไฟฟ้าชีวมวล หากเชื้อเพลิงมีราคาสูงขึ้นบริษัทรับซื้อต้องมาขายแพง ประชาชนก็ต้องซื้อไฟฟ้าแพงหรือไม่

“ตามแผนที่ตั้ง RPS ตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาวหรือพีดีพีที่ปรับปรุงหม่ ต้องโอนผู้ใช้ผู้ใช้ไฟฟ้า 500,000 ราย ไปบริษัทใหม่ แล้วพนักงาน กฟภ.ในพื้นที่ 500-600 คนจะถูกลอยแพหรือไม่ ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่จะได้รับการดูแลอย่างไร ก็ยังเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ และเรื่องเช่นนี้ควรให้คนในพื้นที่รับทราบก่อนดีหรือไม่” นายสมชาย กล่าว


ด้านนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า พื้นที่ไฟฟ้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษ การจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาดูแลก็เพื่อสนับสนุนด้านความมั่นคงและเรื่องเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ขอชี้แจงรายละเอียด

ทั้งนี้ เอกสารของกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า การจัดตั้งบริษัท RPS จะมีผู้ถือหุ้นประกอบไปด้วย กฟภ.และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หน่วยงานละร้อยละ 24.5 ส่วนอีกร้อยละ 51 ถือหุ้นโดยกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และในอนาคตวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่จะเข้ามาถือหุ้นทดแทนกองทุนอนุรักษ์ฯ  โดยทาง กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า และ ศอ.บต.จะเป็นผู้คัดเลือกจัดตั้งขึ้นเพื่อกระจายรายได้และสร้างการเจริญเติบโตในท้องถิ่นกระจายอำนาจให้ชุมชนให้ชุมชนมีความรู้สึกถึงการเป็นเจ้าของและรักษาระบบไฟฟ้า. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย