กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- ตำรวจกองปราบนิมนต์ พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เข้าให้ปากคำในคดีเงินทอนวัด ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสอบปากคำขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้านำกำลังเข้าค้น 3 วัดดัง
พระพรหมดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดสามพระยา ถูกตำรวจกองปราบปรามนิมนต์มาที่กองปราบปราม หลังช่วงเช้าตำรวจได้นำหมายจับพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นภายในวัดสามพระยาเพื่อหาหลักฐานและความเชื่อมโยงในคดีเงินทอนวัดกลุ่มที่ 3 หลังตำรวจพบหลักฐานเป็นเส้นทางการเงินกับนางวิภาพร อุดมโชติปิติ ที่ถูกตำรวจกองปราบปรามค้นบ้านพักย่านบางกรวย พบหลักฐานว่านางวิภาพรรับเงินงบประมาณพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาของวัดสามพระยาจำนวน 5 ล้านบาทที่ได้รับอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
สำหรับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม กับ ตำรวจ ปปป. นำหมายจับและหมายค้น เข้าตรวจค้นวัด 3 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นสถานที่จำวัดของพระชั้นผู้ใหญ่ 6 รูป เพื่อดำเนินการจับกุมและนิมนต์มารับทราบข้อหาในความผิดฐานฟอกเงิน หลังพบมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีทุจริตเงินทอนวัด ระยะที่ 3
โดยที่วัดสระเกศวรมหาวิหาร ศาลอนุมัติหมายจับพระชั้นผู้ใหญ่ 4 รูป แต่ปรากฎว่าเมื่อไปถึง พบเพียงพระศรีคุณาภรณ์ และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด 2 รูป จึงนิมนต์มารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนผู้ช่วยเจ้าอาวาส 1 รูป พบว่าอาพาธเกี่ยวกับความดันอยู่ที่โรงพยาบาลสมิติเวช และไม่พบพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศจำวัดอยู่
ส่วนที่วัดสามพระยาวรวิหาร ตำรวจพบพระพรหมดิลกเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และพระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพฯ จำวัดอยู่ จึงนิมนต์มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบปราม
ส่วนวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร ซึ่งพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด ถูกออกหมายจับด้วยนั้นตำรวจ ไม่พบว่าจำวัดอยู่ จึงเข้าตรวจค้นรวบรวมพยานหลักฐานนำกลับมาขยายผล
โดยคดีนี้ สืบเนื่องจากผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เข้าร้องทุกข์กับตำรวจ ปปป. ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด ระยะที่ 3 ความเสียหายรวมกว่า 70 ล้านบาท จนมีการประสาน ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบความผิดปกติเรื่องการโอนเงิน ที่พบไม่มีการนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ แต่กลับนำไปใช้ในเป้าหมายอื่น ทั้งเส้นทางการเงิน 20 ล้านบาทที่พบโอนเข้าบัญชีแม่บ้าน ที่บ้านพักย่านรามคำแหง / เงินจำนวน 5 ล้านบาทที่โอนเข้าบัญชีผู้เลื่อมใสศรัทธา ว่าจ้างให้ก่อสร้างศาลาการเปรียญเป็นต้น
ซึ่งนอกจากพระทั้ง 6 รูปแล้ว ศาลยังอนุมัติหมายจับฆราวาสวัดสระเกศอีก 4 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ โดยหนึ่งในนั้นคือ นางฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา มารดาของร้อยโทฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ที่รับโอนเงินจากวัดสระเกศ เพื่อจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ซึ่งได้เดินทางเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทนายความแล้ว และอีกรายคือนายทวิช สังข์อยู่ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลภายในวัด ถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่กองปราบปรามแล้วเช่นกัน
และนอกจากคดีนี้ ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ยังระดมกำลังเข้าจับกุม พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือพระพุทธอิสระ ในข้อหาสนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์ จากวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐมมาดำเนินคดีตามหมายจับดังกล่าว รวมถึงหมายจับในความผิดคดีสนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์
ด้านพลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวก่อนเข้าสอบปากคำพระพรหมดิลกและตรวจสำนวนคดี ว่าตำรวจจะรวบรวมหลักฐานทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และเข้าใจความรู้สึกของกลุ่มลูกศิษย์ของพระผู้ใหญ่แต่ละรูป