นนทบุรี 23 พ.ค. – กระทรวงพาณิชย์ยืนยันดูแลราคาสินค้าไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการลอยตัวก๊าซหุงต้มและน้ำมันดีเซล เบื้องต้นทั้ง 2 ปัจจัยกระทบต้นทุนการผลิตและอาหารจานเดียวน้อยมาก
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาราคาสินค้า ซึ่งขณะนี้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากประชาชนวิตกกังวลว่าการลอยตัวก๊าซหุงต้มปัจจุบันปรับราคาต่อถังอยู่ที่ 395 บาท โดยยืนยันว่าราคาดังกล่าวเคยปรับขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2558 สะท้อนให้เห็นว่าราคาก๊าซหุงต้มมีทิศทางทั้งปรับขึ้นและลดลง
ส่วนความกังวลของผู้บริโภคที่คิดว่าการลอยตัวก๊าซหุ้งต้มจะทำให้ราคาสินค้าโดยเฉพาะอาหารจานเดียวปรับขึ้นนั้น จากการตรวจสอบของกรมการค้าภายในพบว่าเมื่อคำนวณผลกระทบในส่วนของก๊าซหุงต้ม ข้าวกระเพราหมูจานละ 35 บาทมีผลกระทบไม่เกิน 15 สตางค์ต่อจาน และก๋วยเตี๋ยวจานละ 35 บาท กระทบ 20 สตางค์ต่อจาน ส่งผลต่อต้นทุนน้อยมาก ขณะที่ผลกระทบจากดีเซลปรับตัวสูงขึ้นนั้น กระทบต่อต้นทุนขนส่งที่ปกติราคาเชื้อเพลิงจะมีสัดส่วนร้อยละ 30-40 ของต้นทุนด้านขนส่ง และจากการติดตามครั้งนี้มีผลกระทบต่อต้นทุนขนส่งเพียงร้อยละ 0.5 ถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยมาก ซึ่งปัจจัยทั้ง 2 จึงไม่เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วประเทศและหากพบฉวยโอกาสปรับราคาเกินกว่าต้นทุนคำนวณไว้ ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนประชาชนพบเห็นแจ้งได้ที่หมายเลข 1569 ได้
ส่วนปัจจัยด้านพลังงานทั้ง 2 นี้เกี่ยวกับด้านการผลิต ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตสินค้ารายใดแจ้งขอขึ้นราคา หากยื่นเข้ามาจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ รวมทั้งภาครัฐยืนยันว่าราคาพลังงานหลังจากภาครัฐจะมีมาตรการดูแลเต็มที่ รวมถึงร้านธงฟ้าประชารัฐมีสินค้าราคาพิเศษจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนเลือกซื้อต่ำกว่าท้องตลาดร้อยละ 10-50
รมว.พาณิชย์ระบุว่าวันที่พรุ่งนี้ (24 พ.ค.) จะนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบราคาอาหารจานเดียว เพื่อติดตามราคาอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย