กรุงเทพฯ 17
พ.ค.-ไออาร์พีซี ยันไร้ผลกระทบ คดี ป.ป.ช ฟ้องร้อง “ทักษิณ ชินวัตร”
พร้อมมั่นใจแม้ราคาน้ำมันสูง แต่ราคาผลิตภัณฑ์ขยับตาม ไม่กระทบต้นทุน
ส่วนการร่วมทุนพัฒนานิคมฯ สร้างผลดีรองรับอีอีซี
นางรัชดาภรณ์
ราชเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บมจ.ไออาร์พีซี กล่าวว่า
ที่ปรึกษาทางกฏหมายและทีมกฏหมายของบริษัทได้ ศึกษากรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.)
.มีมติดำเนินคดีกับ นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีการให้กกระทรวงการคลังแก้ปัญหาหนี้บริษัททีพีไอ
โดยขอยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบกับไออาร์พีซี เพราะทุกกระบวนการดำเนินการตามคำสั่งศาลทั้งหมด
ส่วนกรณีที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น
จนใกล้กับ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลนั้นทางกลุ่ม ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์
แต่ยังไม่ปรับขึ้นประมาณการราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่
65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดยยอมรับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินการ ในขณะเดียวกัน
จากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขยับสูงขึ้นทางบริษํทจึงไม่มีผลกระทบ ในขณะเดียวกัน
ยังมีโอกาสกำไรจากสตอกน้ำมันอีกด้วย และจากขณะนี้เงินบาทอ่อนค่า
ลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2561 ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อรายได้ของบริษัท นอกจากนี้ กำลังการกลั่นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น
213,000 บาร์เรลต่อวันจากปีก่อนอยู่ในระดับ 180,000 บาร์เรลต่อวัน อัตราการใช้การกลั่นเฉลี่ยเพิ่มในระดับร้อยละ99
จากปีก่อนเฉลี่ยในระดับร้อยละ 96 ทั้งนี้คาดว่าค่าการกลั่นรวม(GIM) อยู่ในระดับ 14-15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างดี
ส่วนการขายที่ดินจำนวน 2,152 ไร่ อ.บ้านค่าย
จ.ระยอง ให้กับบริษัทร่วมทุนระหว่างไออาร์พีซีกับบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล
ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WHA ลงทุนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมนั้น
จะมีมูลค่าขาย 620 ล้านบาท สร้างกำไรให้ไออาร์พีซีกว่า 100 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ไตรมาส3/2561
พร้อมๆกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จ และจะเริ่มพัฒนาที่ดินโดยจะเริ่มขายได้ในปี2565คาดว่าจะใช้เงินลงทุนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมนี้ราว8,000ล้านบาท
ขณะนี้มีลูกค้าติดต่อแล้ว จะเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่รองรับอุตสาหกรรมใหม่
เช่น ยานยนต์ การบิน หุ่นยนต์ รองรับการพัฒนาพื้นที่อีอีซี
ส่วนที่ดินพื้นที่อ.จะนะ
จ.สงขลา ของ IRPC ราว 2,000
กว่าไร่กำลังอยู่ระหว่างการรอการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกในพื้นที่สงขลาแห่งที่ 2
ซึ่งกำลังดูว่าควรจะพัฒนาเป็นรูปแบบใด-สำนักข่าวไทย