fbpx

ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษา 29 ส.ค.คดีทักษิณให้ก.คลังฟื้นฟูทีพีไอ

กรุงเทพฯ 21 ส.ค.- ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา คดี “ทักษิณ” ให้ ก.คลังเข้าบริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท ทีพีไอ โดยมิชอบ 29 สิงหาคม หลังไต่สวนพยาน 6 ปาก โดยฝ่ายจำเลยไม่ตั้งทนายซักค้าน 


ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวน พยานนัดสุดท้ายในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ    (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.40/2561 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 

กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดจำเลยว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 เมื่อ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรี    ว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำเรื่องที่จะให้กระทรวงการคลัง เข้าไปเป็นผู้บริหารแผนบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI  ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน จำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งทราบดีอยู่แล้วว่ากระทรวงการคลังเป็นส่วนราชการ มีอำนาจหน้าที่เฉพาะตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2542 ไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารกิจการของบริษัทเอกชน 


แต่จำเลยกลับเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง เข้าไปเป็นผู้บริหารฟื้นฟูกิจการของบริษัท TPI อีกทั้งยังได้เสนอรายชื่อบุคคลเข้าเป็นผู้บริหารแผนด้วย ต่อมาร.อ.สุชาติ ได้แจ้งไปยังสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ยินยอมให้กระทรวงการคลังเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนของบริษัท TPI และแจ้งรายชื่อตามที่จำเลยได้ให้ความเห็นชอบแล้ว เป็นผลให้ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2546 ให้กระทรวง การคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผน การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อระบบราชการ

คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ศาลฯนัดไต่สวนพยานโจทก์ 3 ครั้ง วันที่ 10 สิงหาคม , 14 สิงหาคม และ 21 สิงหาคม 2561 โดยโจทก์นำพยานเข้าไต่สวนรวม 6 ปาก ไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ในวันนี้เป็นนัดสุดท้าย  ในการพิจารณาคดีฝ่ายจำเลยไม่ได้ตั้งทนายมาซักค้าน ทำให้กระบวนการพิจารณาคดีใช้เวลาเพียงสามเดือนเศษ 

ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 สิงหาคม 2561 เวลา 9.00 น. ซึ่งถือเป็นคดีแรกที่จะมีการอ่านคำพิพากษาจากกระบวนการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 ที่เปิดช่องให้ทำได้ เพื่อแก้ปัญหาจำเลยหลบหนีคดี จนต้องจำหน่ายคดีออกจากสารบบเป็นการชั่วคราวไม่สามารถเดินหน้ากระบวนการพิจารณาคดีได้ ซึ่งก่อนหน้านี้องค์คณะศาลฎีกาฯในคดีนี้ได้ออกหมายจับนายทักษิณให้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้วด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว