นนทบุรี 16 พ.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์เผยราคาข้าวเปลือกหอมในตลาดดีต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อตัน ขณะผู้ผลิตข้าวถุงยันราคาข้าวหอมบรรจุถุงขึ้นจริง แต่ไม่ปรับเพิ่มมากกว่าหน้าถุงแน่
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มผลผลิตข้าวปีนี้จะมากขึ้นกว่าร้อยละ 10-20 เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างดี แต่ทั้งนี้จะเร่งส่งเสริมคุณภาพข้าวของไทย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาว และทำให้ไทยคงความเป็นผู้นำข้าวหอมมะลิของโลก โดยคาดว่ามาตรการดูแลราคาข้าวที่รัฐบาลจะออกมาทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเปลือกเจ้า คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตัน โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นและสินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากขึ้น
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมข้าวถุงไทยและผู้บริหารข้าวมาบุญครอง กล่าวว่า ราคาข้าวหอมมะลิ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมตามห้างสรรพสินค้าขณะนี้มีราคาปรับขึ้นจริงต่อถุง 20-30 บาท ซึ่งเป็นการขึ้นแบบไม่มีโปรโมชั่นเหมือนช่วงที่ผ่านมา แต่คงจะไม่ขึ้นมากกว่าราคาหน้าถุงอย่างแน่นอน สาเหตุที่ราคาข้าวถุงขึ้นน่าจะมาจากสถานการณ์ราคาข้าวหอมมะลิตลาดโลกและปริมาณข้าวหอมมะลิในช่วงนี้น้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวถุงหอมมะลิยี่ห้อต่าง ๆ สูงตาม แต่เชื่อว่าจะไม่ปรับขึ้นไปมากกว่านี้ และผู้ประกอบการคงจะไม่ปรับราคาข้าวถุงเกินกว่าราคาหน้าถุงที่กำหนดไว้ตามที่หลายฝ่ายกังวล หากราคาข้าวหอมมะลิในตลาดยังสูงขึ้นมากกว่านี้ผู้ผลิตข้าวถุงอาจจำเป็นต้องปรับราคาข้าวถุงขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาข้าวถุงตามห้างสรรพสินค้าจะปรับสูงขึ้นบ้าง แต่เท่าที่สำรวจไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนมากนัก เพราะจากการแข่งขันในตลาดสูงและมีข้าวหอมมะลิถุงในตลาดมีหลายยี่ห้อทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อข้าวถุงยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีราคาไม่แพงมาก ประกอบกับผู้บริโภคหันไปบริโภคข้าวชนิดอื่น ๆ ที่มีราคาถูกทดแทนได้ โดยเฉพาะข้าวเจ้าที่มีราคาไม่แพง แต่โดยรวมราคาข้าวเจ้าบรรจุถุงก็ไม่ได้ปรับขึ้นไปมากส่วนใหญ่ราคาจะทรงตัว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (16 พ.ค.) กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ผู้ประกอบการยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติประมูลข้าวสารในสตอกของรัฐเป็นการทั่วไป หรือข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค ครั้งที่ 1 ของปี 2561 ในสตอกทั้งหมดกว่า 43,700 ตัน จำนวน 20 คลัง ใน 15 จังหวัด โดยเป็นคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ทั้งหมด ประกอบด้วยข้าว 9 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าว A1 เลิศ ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าว A1 และข้าวท่อนหอมมะลิ โดยมีเอกชนมียื่นซองทั้งสิ้น 43 ราย และหลังจากนี้ทางกรมฯ จะตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนที่จะประกาศรายชื่อและให้ยื่นเสนอซองประมูลวันที่ 18 พฤษภาคมนี้.-สำนักข่าวไทย