กาฬสินธุ์ 11 พ.ค.-เร่งล่า “น้อย เหล็กเพชร” ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ยิงแสกหน้า “ส.ต.ท.ศรัญ” เสียชีวิต ขณะว่ายน้ำเข้าจับกุมบนแพปลาในลำน้ำปาว จ.กาฬสินธุ์
เหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ส.ต.นายหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต และอีกนายได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ระดมค้นหาจนพบศพ ซึ่งพบว่าผู้ตายถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมแม้ร้องขอชีวิต และทราบว่าผู้ตายเป็นบุตรชายของผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย มือปราบอันดับ 1 ของ บช.ภ.4
หน่วยกู้ภัยจากหลายมูลนิธิงมค้นหาร่างของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ซึ่งถูกนายสุริยันต์ หรือ “น้อย” เหล็กเพชร อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นอดีตแพทย์ประจำตำบลดงสมบูรณ์ และผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด ยิงตกลงไปในแม่น้ำปาว ในบริเวณเขื่อนลำปาว เขต ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท โดยการค้นหาค่อนข้างยากลำบาก เพราะบริเวณดังกล่าวมีน้ำลึกและใต้น้ำมีต้นไม้-ซากวัชพืชจำนวนมาก ขณะชุดสืบสวนได้ออกตระเวนตามลำน้ำปาวเพื่อแกะรอยคนร้ายที่หลบหนี และขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส เพราะเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในลำน้ำปาว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังค้นหานานกว่า 20 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงพบศพ ส.ต.ท.ศรัญ ในเวลาประมาณ 12.00 น. หลังศพลอยขึ้นผิวน้ำ ห่างจากแพจุดเกิดเหตุ 50 เมตร จากการตรวจสอบพบผู้ตายใส่กางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ กระสุนเจาะกะโหลก บริเวณกกหู และ ท้ายทอย เมื่อ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย พ่อของผู้ตาย มาเห็นศพลูกชาย ก็มีสีหน้านิ่งขรึมน้ำตาคลอเบ้า
ทั้งนี้ภายหลังจากพบศพ เจ้าหน้าที่จึงลำเลียงไปที่โรงพยาบาลท่าคันโท โดยมี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร และ นางพัชรี มุทาพร พร้อมตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 เดินทางมามาดูศพด้วยความหดหู่ใจ ญาติหลายคนหลั่งน้ำตา แต่พ่อและแม่อยู่ในความสงบดูลูกด้วยความสงสาร
นางพชรี มุทาพร มารดาผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่สุดเพราะมีลูก 2 คน ชายกับหญิง โดย ส.ต.ท.ศรัญ เป็นบุตรคนโต ซึ่งบุตรชายเลือกเป็นตำรวจเหมือนกับพ่อ เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ก็เสียใจ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ยอมรับว่าเสียใจมาก แต่เชื่อว่าตำรวจจะจับกุมคนร้ายได้
สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ศพของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ได้เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลท่าคันโท โดยจะไปผ่าพิสูจน์ศพยังสถาบันนิติเวชขอนแก่น และในวันพรุ่งนี้จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย
ขณะที่ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้ามาปฏิบัติงานหลายนาย แต่บริเวณจุดเกิดเหตุมีตำรววจเข้ามา 3 นาย หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหามากบดานบริเวณนี้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ “ด.ต.อมฤต ละลี” ได้เข้าควบคุมภรรยาผู้ต้องหาไว้ ส่วนอีก 2 นาย คือ “ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล” และ “ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร” ได้พายเรือเข้าไปแพกลางน้ำ ซึ่งเมื่อมาถึงและแสดงตัว ปรากฏว่า ผู้ต้องหากระโดดน้ำหนี ด.ต.ปราโมทย์ จึงพายเรือตาม แต่ผู้ต้องหากลับพยายามคว่ำเรือ ทำให้ ส.ต.ท.ศรัญ ซึ่งรออยู่ที่แพ กระโดดน้ำลงไปช่วย หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ยิง ด.ต.ปราโมทย์ ที่บริเวณแขนจนตกจากเรือ ทำให้ ด.ต.ปราโมทย์ ว่ายน้ำหลบเข้าไปที่แพ จากนั้นผู้ต้องหาได้ขึ้นเรือ ก่อนใช้ปืนเล็งไปยัง ส.ต.ท.ศรัญ ที่กำลังว่ายน้ำอยู่และมาถึงเรือจึงพยายามร้องขอชีวิตว่า “อย่ายิง” ซึ่ง ด.ต.ปราโมทย์ ก็ตะโกนขอ “อย่ายิง” แต่ผู้ต้องหาไม่ฟัง ก่อนจ่อยิง “ส.ต.ท.ศรัญ” ที่ศีรษะจนเสียชีวิตและจมน้ำหายไป ซึ่งผู้ต้องหายังนำปืนของตำรวจไป 2 กระบอกอีกด้วย
สำหรับประวัติ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร อายุ 26 ปี อดีตเป็นนักว่ายน้ำของโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเมื่อจบการศึกษาได้สอบเข้าตำรวจและได้เข้ารับในปี 2556 และรับราชการอยู่ที่ สภ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ระหว่างนั้น พ.ต.อ.เกษม มุทาพร บิดาเดิมเป็น ผกก.สืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 และถือเป็นมือปราบอันดับ 1 ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ขอตัวลูกชายมาช่วยราชการที่ กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 ก่อนที่ตนเองจะย้ายไปเป็นผู้กำกับการ สภ.เรนูนคร จ.นครพนม เพื่อรับผิดชอบคดี “ครูจอมทรัพย์” ก่อนย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย ในปัจจุบัน แต่ก็ได้ฝากฝังให้รุ่นพี่ตำรวจที่อยู่สังกัดเดิมให้ช่วยดูแลบุตรชาย.-สำนักข่าวไทย