กทม. 10 พ.ค.-ย้อนรอยคดี “เปรี้ยว” และเพื่อน ฆ่าหั่นศพ “แอ๋ม” เมื่อปี 60
คดีฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ตกเป็นข่าวดังทันที เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2560 ชาวบ้านในพื้นที่ บ.โนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พบศพสาวถูกฆ่าหั่นแยกออกเป็น 2 ท่อน จากนั้นมือฆ่าได้นำศพฝังดิน ขณะนั้นยังไม่มีใครทราบว่าผู้ตายคือใคร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน ก่อนทราบว่า ผู้ตายคือ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือแอ๋ม อายุ 23 ปี ทำงานอยู่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เบื้องต้นหลังพบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมในการสังหารไว้คือ ขัดแย้งส่วนตัว เรื่องชู้สาว รวมไปถึงลวงฆ่าเพื่อชิงทรัพย์
และช่วงเช้าของวันที่ 29 พ.ค.60 ศาลจังหวัดขอนแก่นได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ โดยผู้ถูกกล่าวหาเป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน ประกอบด้วย นายวศิน อายุ 22 ปี , น.ส.จิดารัตน์อายุ 21 ปี , น.ส.ปรียานุช อายุ 24 ปี และ น.ส.กวิตา อายุ 25 ปี
และช่วงเย็นของวันที่ 29 พ.ค. นายวศิน 1 ในผู้ต้องหา ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจ ที่ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี จากการสอบสวนนายวศินให้การเบื้องต้นว่ารู้เห็นกับการฆาตกรรมจริง โดยซัดทอด น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว เป็นผู้ลงมือฆ่าและทำลายศพ โดยก่อนเกิดเหตุไปเช่ารถซีอาร์วีมาให้ตนเป็นคนขับ จากนั้นได้ลักพาตัวน้องแอ๋ม โดยระหว่างทาง น.ส.เปรี้ยวได้ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวน้องแอ๋มแล้วซ้อม ซึ่งน้องแอ๋มก็พูดออกมาว่า ซ้อมเลย ถ้ารอดไปได้จะมาเอาคืน ปรากฏว่า น.ส.เปรี้ยวซ้อมและบีบคอน้องแอ๋มจนขาดใจตายบนรถ นายวศินระบุ เปรี้ยวบอกให้พาไปยังที่ดินของตนเองใน อ.เขาสวนกวาง เพื่อนำศพน้องแอ๋มไปทิ้ง ระหว่างทางได้ซื้ออุปกรณ์พวก เลื่อย ใบมีด ถุงพลาสติก ปูนซีเมนต์ และเสียม ตามร้านขายวัสดุก่อสร้าง ส่วนผู้ที่ลงมือหั่นศพคือ น.ส.เปรี้ยว ตนเองไม่ได้ทำ เพียงแค่มีหน้าที่ขับรถให้เท่านั้น ก่อนจะขับรถไปที่รีสอร์ต ในพื้นที่บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น แล้วลงมือหั่นศพแอ๋มด้วยตัวเอง ส่วนสาเหตุมาจาก น.ส.เปรี้ยวมีความแค้นส่วนตัวกับน้องแอ๋ม โดย น.ส.เปรี้ยวอ้างว่าน้องแอ๋มเป็นสายชี้เป้ากับตำรวจให้จับกุม เปรี้ยวในคดียาเสพติด เมื่อมีโอกาสจึงคิดแก้แค้น
ตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ประสานข้อมูลทางการพม่า พบว่า 24 พฤษภาคม 2560 น.ส.จิดารัตน์ โทร.ไปหาเจ้าของร้านโอโซนคาราโอเกะ เมืองท่าขี้เหล็กซึ่งเป็นคนไทยขอกลับมาทำงาน จากนั้น 25 พฤษภาคม 2560 น.ส.ปรียานุช, น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันท์ นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ก่อนนั่งรถแท็กซี่ไปชายแดน อ.แม่สาย นายเก๋สั่งลูกน้องนำรถไปรับเข้าทำงาน
ก่อนที่วันที่ 3 มิ.ย.60 เจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมาสามารถจับกุมตัว 3 ผู้ต้องคดีฆ่าหั่นศพได้ และนัดส่งมอบตัวกันที่กลางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดย ผวจ.ท่าขี้เหล็กนำคณะมาส่งให้ด้วยตัวเอง ประกอบด้วย เปรี้ยว, เอิร์นและแจ้ โดยหลังจับตัวได้ พลเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร นำทั้งหมดมาสอบปากคำด้วยตัวเองที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เป็นข่าวดัง หลังมีคลิปหลุด เปรี้ยวเอิร์น ถูกขุดคุ้ยที่มาที่ไปกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับ เปรี้ยว หรือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย และ น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น 2 เพื่อนสนิท ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมหั่นศพ “น้องแอ๋ม” น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี อย่างโหดเหี้ยม ล่าสุดชาวโซเชียล ยังขุกคุ้ยเรื่องราวเกี่ยวกับที่ 2 สาว ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ค ด้วยสีหน้า ท่าทางสดชื่น ในช่วงเวลาที่ก่อนจะก่อเหตุด้วย ซึ่งหลังมีการเผยแพร่ก็ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ และหากตรวจสอบที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของเปรี้ยว จะพบว่ามีการไลฟ์สดจากต่างประเทศบ่อยครั้ง โดยครั้งหนึ่ง เปรี้ยวเคยพูดผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กหลังร้องเพลง ผู้สาวขาเลาะ ของลำไย ไหทองคำ ด้วยว่า “ปล่อยหัวใจไปแล้วนะคะ ใครก็ได้ช่วยรับที เป็นเด็กบ้านนอก ใสๆ ซื่อๆ ไม่มีฤทธิ์ไม่มีเดช”
นอกจากนี้ในคืนเกิดเหตุ อภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ “เสี่ยโป้ อานนท์” คนเคยสนิทเปรี้ยว ได้เล่าว่า ตนรู้จักเปรี้ยวมาได้ 1 เดือนแต่เป็นช่วงก่อนเกิดเหตุฆ่าน้องแอ๋ม บางครั้งเปรี้ยวก็ถ่ายหน้าอก ถ่ายอวัยวะเพศให้ดู หรือบางครั้งส่งเสียงครางมาเพื่อให้ตนมีอารมณ์และให้ไปหา อภิรักษ์บอกต่อว่าช่วงวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เปรี้ยวส่งคลิปสั้นๆ 1 วินาทีมาให้ โดยเป็นคลิปที่เปรี้ยวนั่งอยู่ภายในรถ ก่อนส่งข้อความมาว่า ส่งผิด และก็โทรศัพท์มาหาตนแต่ไม่ได้รับเพราะจังหวะนั้นอยู่กับภรรยา หลังจากนั้น พอตนเห็นข่าวเปรี้ยวครั้งแรกก็ตกใจ ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเปรี้ยวมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมขนาดนี้
ทำแผนเปรี้ยว ผู้สื่อข่าวเกาะติดตั้งแต่เช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยตำรวจจากสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ได้นำตัว นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมเพื่อน นางสาวเอิร์น และ นางสาว แจ้ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากเมื่อคืนนี้มีการสอบปากคำทั้งคืน ที่สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น รวม 6 จุด โดยมีประชาชนมารอตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดกั้นเส้นทางระหว่างบ้านโนนสง่าและบ้านคำม่วง ไม่ให้รถผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้มีทั้งตำรวจ ชุดควบคุมฝูงชนกู้ภัยสว่าง และอส.ตร. มาอำนวยความสะดวก ซึ่งการทำแผนในครั้งนี้มียายของน้องแอ๋มมาเฝ้ารอดูการทำแผนด้วย
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี ผู้บังคับการตำรวจคนเข้าเมือง5 (ผบก.ตม.5) ลงนามในคำสั่ง ให้ พ.ต.ท.ฤทธิไกร กะระกล รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย และ ร.ต.อ.ธวัชศิลป์ บุญตันหล้า รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตม.5 ทั้งนี้สืบเนื่องจากสังคมออนไลน์นำภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ภาพการปฏิบัติหน้าที่ไว้ไปเผยแพร่จนมีการตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย การปรากฏภาพของตำรวจทั้ง 2 นาย ส่งผลให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ภาพเจ้าปัญหาดังกล่าวเป็นภาพถ่ายคู่ ของตำรวจทั้งสอง คู่กับนางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ผู้ต้องหาคดีฆ่า หั่นอำพรางศพ ระหว่างที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ในอิริยาบถสนุกสนานยิ้มแย้มแจ่มใส
ล่าสุด 23 มีนาคม 61 เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อมีแชทหลุดของ”เปรี้ยว” ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ”น้องแอ๋ม” ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น แต่ล่าสุดกลับมีการเผยแชทหลุดผ่านโปรแกรมแมสเซ็นเจอร์ของเฟซบุ๊กระหว่างเปรี้ยวกับเพื่อนสนิท โดยมีการโชว์ภาพล่าสุดของเปรี้ยวซึ่งตัดผมสั้น เซลฟี่กันในเรือนจำแล้วส่งให้เพื่อนๆดู โดยเปรี้ยวยังบอกให้เพื่อนๆ เขียนจดหมายมาหาเพราะคิดถึงมาก โดยให้ที่อยู่เป็นเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น เปรี้ยวยังบอกเพื่อนๆ ว่า “ขอบคุณที่ไม่รังเกียจฆาตกรอย่างเค้า” เพื่อยังปลอบว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวได้อภัยโทษ แต่เปรี้ยวกลับบอกว่า “ประหารมั้ง”
อีกทั้งยังได้มีแช็ตหลุดการสนทนาระหว่าง “เปรี้ยว” กับคนที่ชื่อว่า “เชค” ที่คาดว่าเป็นเพื่อนชายคนสนิท บอกว่า “เปรี้ยวไม่เคยลืมเชค” อีกทั้งคนที่ชื่อ “เชค” ยังได้พิมพ์มาอีกว่า ใจเปรี้ยวแข็งมาก พี่ยอมรับ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี โดย เปรี้ยว ได้พิมพ์ตอบกลับไปว่า “ที่สุดอ้ะ แข็งไม่สู้อันนั้นเชคหรอก น้ำหอมที่ให้ใช้หมดยัง เก็บขวดไว้ด้วยนะ ถ้าเปรี้ยวได้ออกจะไปเอาขวดคืน จะเอามาทำโจ๋”.-สำนักข่าวไทย