กรุงเทพฯ 6 พ.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กทม.กำลังเก็บตัวอย่างน้ำจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ในอะพาร์ตเมนต์ ในเขตลาดพร้าว หากผลตรวจพบว่าคุณภาพน้ำไม่ได้ตามมาตรฐานจะสั่งให้หยุดดำเนินการทันที แต่หากผลตรวจอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จะแจ้งให้ผู้ประกอบการยื่นขอใบอนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่แม้จะมีใบอนุญาตแล้ว ก็มีการเก็บตัวอย่างไปตรวจเช่นกัน และหากผลออกมาว่าคุณภาพน้ำไม่ได้ตามมาตรฐานก็ต้องหยุดดำเนินการ
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯ กทม. ให้ข้อมูลว่าตัวอย่างน้ำที่เก็บไปจะรู้ผลตรวจภายใน 24 ชั่วโมง และสั่งการให้ตรวจทั้ง 50 เขต ที่มีตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญรวมทั้งหมด 3,964 ตู้ มีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องเพียง 160 ตู้ ไม่มีใบอนุญาตถึง 3,804 ตู้ นั่นหมายความว่าตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญมากกว่าร้อยละ 95 ไม่มีใบอนุญาต พบมากสุดในเขตจุตจักร กว่า 300 ตู้ รองลงมาก เป็น ลาดพร้าว ยานนาวา และมีนบุรี ทั้งนี้ หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผู้ประกอบการตั้งตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญโดยไม่ขอใบอนุญาต เพราะมองว่าค่าธรรมเนียมปีละ 2,000 บาท/ตู้ สูงเกินไป และต้องปฏิบัติให้ได้มาตรฐานโดยมีการเปลี่ยนไส้กรอกน้ำตามระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนไม่ขอใบอนุญาตให้ถูกต้อง จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ. -สำนักข่าวไทย