ภูเก็ต 2 พ.ค. – ตำรวจแถลงจับกุมเจ้าของโครงการอสังหารายใหญ่ หลอกขายคอนโด-ห้องชุด แต่ไม่สร้าง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 127 ล้านบาท ชี้พฤติกรรมทำลายภาพลักษณ์ประเทศเหตุผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้(02 เม.ย.61)ที่ สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.ควบคุม กำกับชุดปฎิบัติการประจำศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรและสื่ออิเล้กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ตำตรวจภูธร จ.ภูเก็ต พ.ต.อ อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ ป่าตอง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุม เจ้าของโครงการอสังหารายใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต และในเมืองท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และโฆษณาเป็นเท็จหรือเกินความจริง(พรบ.คุ้มครองผู้ริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 22 และประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจขายห้องชุดเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนตามพรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 โดยจับกุมได้ที่ท่าอากาศทยานนานาชาติ จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 22.00 น. เมื่อคืนวันที่หนึ่งกุมภาวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตามหมายศาล จ.ภูเก็ต และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ส.ภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต
ด้านพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ทางศูนย์ปฏิบัติการฯได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน ส.ภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลวง ด้วยการโฆษณาเสนอขายดอนโดและห้องชุดชื่อโครงการดิเอมเมอรัลด์ เนอร์วานา คอนโดมิเนียม ป่าตองกะหลิม โดยบริษัท โดยมีพฤติกรรมโดยการโฆษณานำเสนอขายคอนโดและห้องชุดโดยหลอกลวงผู้เสียหายให้จ่ายเงินจองและผ่อนชำระค่างวดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 2 ล้าน 8 แสนกว่าบาท และจากการตรวจสอบคุณค่าความเสียหาย ที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องในคดีอื่นเป็นเงินถึง 127 ล้านกว่าบาท จนกระทั่งถึงวันที่นัดโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญาเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผู้เสียหาย ติดตามทวงถามและตรวจสอบพื้นที่บริเวณก่อสร้างของโครงการพบว่า ไม่มีการก่อสร้างอาคาร หรือ ห้องชุดใดๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทวงถามไปทางโครงการ ทางโครงการก็ไม่ส่งคืนเงินที่ผู้เสียหายได้ชำระไว้ให้ครบตามจำนวน จนต้องมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.ภูเก็ต และแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ป่าตอง และมีการเจรจากันหลายรอบแต่ผู้ต้องหายบิดพริวมาตลอด และในปัจจุบันนี้โครงการยังมีการเสนอขายคอนโดห้องชุดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทางเว็บไซต์และโฆษณาขายทั่วไป ให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทางพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง จึงได้ร้องขอศาล จงภูเก็ต ออกหมายจับดั่งกล่าว ทั้งนี้ในเบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ว่าได้ฉ้อโกงประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศจริง แต่เนื่องจากบริษัทขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่สามารถก่อสร้างโครงการได้ ตามที่ได้สัญญาไว้กับผู้เสียหายดังกล่าว
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ กล่าวว่าคดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ที่สร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่าง เพราะผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ฉะนั้นไๆด้ประสานไปผยังกงสุล และสถานฑูตต่างๆ ขอให้ผู้เสียหายทั้งหมดที่ได้รับความเสียหาย นำเอกสารหลักฐาน แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง โดยด่วน และขอใหฟ้ผู้เสียหายที่แจ้งความแล้วมาให้การเพิ่มเติมที่ สภ.ป่าตอง รวมทั้งผู้ที่สมรู้ร่วมคิดและมีส่วนร่วมในการฉ้อดกงประชาชนในครั้งนี้ติดต่อของมอบตัวที่ สภ.ป่าตอง โดยด่วนส่วนทรัพย์สินต่างๆนั้นไม่ว่าผู้ต้องหาจะถ่ายโอนไปยังที่ใดเจ้าหน้าที่มั่นใจว่า สามารถติดตามยึดมาได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย