สศก.เปิดข้อมูลไม้ผล 4 ชนิด ภาคใต้ตอนบนรอบแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 79

กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – สศก.เปิดข้อมูลไม้ผล 4  ชนิด ภาคใต้ตอนบนรอบแรก คาดผลผลิตรวมกว่า 440,000 ตัน เพิ่มร้อยละ 79 เผยลองกองมากสุดเพิ่มกว่าร้อยละ 800


นายวิณะโรจน์  ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงข้อมูลไม้ผลเอกภาพรอบที่ 1 ปี 2561 ของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ในภาคใต้ตอนบน 7 จังหวัด ได้แก่  สุราษฎร์ธานี  ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ พังงา และภูเก็ต  ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (สศท.8) และศูนย์สารสนเทศการเกษตร ร่วมกับคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคใต้  พยากรณ์ข้อมูลไม้ผลปี 2561 ครั้งที่ 1 (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2561) พบว่า ผลผลิตรวม 4 สินค้า คาดว่าจะมีประมาณ 440,579 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 195,179 เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.54 โดยลองกองจะเพิ่มขึ้นมากสุดร้อยละ 872.26 มังคุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 123.38  เงาะเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.75 และ ทุเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.49 

ทั้งนี้ ผลผลิตทั้ง 4 สินค้าเพิ่มขึ้นทุกชนิด เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำเพียงพอ และปีที่แล้วออกดอกติดผลน้อย ทำให้ต้นมีโอกาสพักตัวสะสมอาหารเต็มที่ ซึ่งคาดว่าผลผลิตจะออกมากช่วงปลายเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องถึงกลางเดือนกันยายน  ส่วนผลผลิตต่อไร่ 4 สินค้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้งหมด เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ประกอบกับปีที่ผ่านมาไม้ผลบางต้นไม่ติดผลหรือให้ผลผลิตน้อย ทำให้มีเวลาพักต้นสะสมอาหารต้นสมบูรณ์ขึ้น และแม้ว่าต้นทุเรียนประสบปัญหาเชื้อราไฟทอปเธอราที่ระบาด แต่ไม่เป็นปัญหามาก เนื่องจากพื้นที่ให้ผลเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทุเรียนสาวที่เริ่มให้ผลเพิ่มขึ้นมาทดแทนเป็นจำนวนมาก


ด้านนายธรณิศร  กลิ่นภักดี ผู้อำนวยการ สศท.8 กล่าวว่า สำหรับแนวทางบริหารจัดการผลไม้ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2561 ยังคงเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยให้จังหวัดคำนึงถึงการบริหารจัดการผลไม้ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของผลไม้ควบคู่กับการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลไม้ตลอดฤดูกาลผลิต อย่างไรก็ตาม หากสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนอาจทำให้ปริมาณผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อีก เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศของภาคใต้มีฝนตกค่อนข้างมากและมีมรสุมเข้ามาสม่ำเสมอ และอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนอีกครั้งหลังกลางเดือนมีนาคมถึงเมษายนเป็นต้นไป โดย สศท.8 จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและลงพื้นที่สำรวจเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2561.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ