สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจ 5 อันดับแรกกระแสกดดันรัฐบาล

1-10-2559 10-01-26กรุงเทพฯ 1 ต.ค.- สวนดุสิตโพลสำรวจความเห็น 5 อันดับแรกกระแสกดดันรัฐบาล พบ การใช้ ม.44 ดำเนินคดีทางการเมืองมาเป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน พบกระแสกดดันไม่ค่อยมีผลต่อความมั่นคงของรัฐบาล


“สวนดุสิตโพล”  สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ในเรื่องที่ประชาชนเห็นว่าเป็นกระแสกดดันรัฐบ่าล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะนี้  จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวนทั้งสิ้น 1,154 คน ระหว่างวันที่ 26-30 กันยายน 2559 พบว่า    5 อันดับแรก  ประกอบด้วย ร้อยละ 83.90  เป็นเรื่องการใช้มาตรา 44 ดำเนินคดีทางการเมือง / ร้อยละ 82.60 เป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ของแพง ค่าครองชีพสูง การว่างงาน / ร้อยละ 71.43 เป็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ โจมตี กดดันรัฐบาลจากบุคคลและกลุ่มต่างๆ / ร้อยละ 66.23 เป็นเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การเตรียมการจัดการเลือกตั้ง และร้อยละ 60.03 เป็นเรื่อง สถานการณ์น้ำท่วม

ส่วนสาเหตุที่มีกระแสกดดันรัฐบาลในขณะนี้ ร้อยละ 78.44  เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง / ร้อยละ 72.73 เพราะยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ / ร้อยละ 67.53 เพราะมีการเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือพวกพ้อง / ร้อยละ 64.16 เพราะการสร้างข่าว บิดเบือนข่าว การเล่นเกมการเมือง และ ร้อยละ 53.51 เพราะประชาชนมีความคาดหวังว่า รัฐบาลจะช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้นได้


เมื่อถามว่า ใคร/กลุ่มใด ที่สร้างกระแสกดดันรัฐบาล  ร้อยละ 77.92 มองว่านักการเมือง / ร้อยละ 70.39 มองว่ากลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาล / ร้อยละ 63.38 มองว่าประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เกษตรกร ชาวนา / ร้อยละ 61.30 มองว่าผู้ที่เสียผลประโยชน์ และร้อยละ 58.96 มองว่าสื่อมวลชน นักวิชาการ

สำหรับกระแสกดดันรัฐบาลขณะนี้ มีผลต่อความมั่นคงของรัฐบาลมากน้อยเพียงใด พบว่า ร้อยละ 44.45 เห็นว่า ไม่ค่อยมีผลต่อความมั่นคง เพราะเป็นเพียงกระแสข่าว เป็นเกมการเมือง รัฐบาลยังดูแลสถานการณ์บ้านเมืองได้ดี ไม่มีการชุมนุมประท้วงสร้างความวุ่นวาย /  ร้อยละ 33.01 เห็นว่า ค่อนข้างมีผลต่อความมั่นคง เพราะความคิดเห็นของประชาชนและกลุ่มต่าง ๆ มีผลต่อการตัดสินใจและการทำงานของรัฐบาล กระทบต่อการปรับคณะรัฐมนตรี ทำให้เป็นจุดอ่อนในการถูกวิพากษ์วิจารณ์  / ร้อยละ 17.71 เห็นว่า  ไม่มีผลต่อความมั่นคง เพราะประชาชนยังคงเชื่อมั่น และเห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของรัฐบาล รัฐบาลมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจน เป็นรัฐบาลทหาร มีอำนาจเด็ดขาด   มีเพียงร้อยะ 4.83 เห็นว่า มีผลต่อความมั่นคงมาก เพราะให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาของรัฐบาล  รัฐบาลต้องทำงานหนักมากขึ้น กระทบต่อเสถียรภาพ กระแสข่าวต่าง ๆ อาจทำให้รัฐบาลมีภาพลักษณ์ที่เสียหายได้       .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง