กฟน.โชว์เปลี่ยนสายไฟฟ้าลงใต้ดิน

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – กฟน.นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเพิ่ม 4 เส้นทางใจกลางกรุง ส่งมอบความสุขถนนสวยไร้สายช่วงเทศกาลสงกรานต์



นายประสงค์ คุ้มประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน บริเวณ ถ.พระราม 1 สี่แยกปทุมวัน ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ศูนย์การค้าสยาม ย่านธุรกิจการค้าใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่ง กฟน.ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมหานครไร้สาย หรือ Smart Metro


นายประสงค์ กล่าวว่า ปัจจุบัน กฟน.ดำเนินการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการปี 2560 จนถึงปัจจุบันสามารถดำเนินการได้แล้ว รวมเป็นระยะทางกว่า 23 กิโลเมตร ได้แก่ ถ.พหลโยธิน ถ.พญาไท และล่าสุด ถ.สุขุมวิท เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2561 และปีนี้อยู่ระหว่างเดินหน้านำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเพิ่ม โดยดำเนินการเสร็จแล้ว คือ ถ.พิษณุโลก บริเวณแยกพาณิชยการถึงแยกยมราช และ ถ.ศรีอยุธยา ช่วงแยกพญาไทถึงแยกหมอเหล็ง 


พร้อมทั้งเร่งดำเนินการอีก 2 เส้นทาง คือ ถ.พระราม 1 แยกปทุมวันถึงสะพานกษัตริย์ศึก ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร และ ถ.ราชปรารภ ช่วงแยกประตูน้ำถึงทางรถไฟ ระยะทาง 0.6 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสับเปลี่ยนระบบจ่ายไฟฟ้าจากสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน รวมถึงรื้อถอนเสาไฟฟ้าบางส่วนคืบหน้ากว่าร้อยละ 95 เพื่อมอบความสุขถนนสวยไร้สายให้ประชาชนได้ร่วมเล่นเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่ใจกลางเมืองอย่างปลอดภัย และมีสภาพแวดล้อมสวยงามเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะเสร็จทั้งหมดภายในเดือนเมษายนนี้

สำหรับโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 4 เส้นทางนี้ ถือเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว มีสถานที่สำคัญ เช่น สนามกีฬาแห่งชาติ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสนามม้านางเลิ้ง และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินจะช่วยสร้างความเพียงพอมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งลดความเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า หรือทำให้เกิดไฟฟ้าดับ เช่น ปัญหาลมพายุ หรืออุบัติเหตุทางท้องถนนต่างๆ

ทั้งนี้ โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดของ กฟน. มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 214.6 กิโลเมตร ล่าสุดก่อสร้างเสร็จ 43.5 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 20.3 และส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 171.1 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 79.7 อย่างไรก็ตาม ปี 2561 ยังมีแผนดำเนินโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มในพื้นที่ ถ.วิทยุ และเส้นทางอื่นๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจด้วย ส่วนเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนจะส่งมอบให้กับกรุงเทพมหานครและกองทัพเรือ เพื่อใช้ในโครงการปักเสาไฟฟ้า ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในบริเวณชายทะเลบางขุนเทียน และบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จ.สมุทรปราการ โดยมีเป้าหมายส่งมอบ 15,000 ต้น ภายในปี 2566. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง