มูลนิธิปวีณาเตือนภัยสาวโพสต์เฟซ ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

ปทุมธานี 1 เม.ย. – มูลนิธิปวีณาฯ เตือนภัยสาวลูกพิการ โพสต์ Facebook ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกลวงโอนเงินล่วงหน้า อ้างเป็นค่าดำเนินการเพื่อให้ผู้ใหญ่ใจดีโอนเงินช่วยเหลือ แต่ท้ายสุดไม่ได้รับเงินใดๆ ขณะที่ล่าสุดพบผู้ก่อเหตุถูกจับกุมที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ฐานอ้างตัวเป็นนักข่าวหลอกเหยื่อโอนเงิน จ่ออายัดตัวมาดำเนินคดีต่อ


ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี  นางสาวนงลักษณ์ แก้วเสริม อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ชาว จ.นนทบุรี เข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ เพื่อยืนยันว่า น.ส.วิไลลักษณ์ อินทรพิทักษ์ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาฉ้อโกงที่หลอกลวงสาวกตัญญูและเพิ่งถูกจับกุมตัวเนินคดีที่ สภ.บ้านโป่ง น่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ที่โทรศัพท์ไปหลอกลวงว่า จะมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือครอบครัวตน ที่ต้องเลี้ยงลูกพิการทางสมอง จนหลงเชื่อโอนไปให้ 5,000 บาท

นางสาวนงลักษณ์ กล่าวว่า ตนมีลูกชายอายุ 8 ขวบ พิการทางสมอง ครอบครัวต้องอยู่อย่างลำบาก รายได้ไม่พอรายจ่าย เพราะใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลลูกชาย จนมีหนี้สินจำนวนมาก และบ้านที่อยู่อาศัยก็เอาไปจำนอง จึงต้องโพสต์ Facebook ขอผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือ โดยให้ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขบัญชี


กระทั่งวันที่ 10 มี.ค. ได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่ง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิปวีณาฯ รับทราบเรื่องโพสต์ขอความช่วยเหลือ และอ้างว่ามีผู้ใจบุญจะช่วยเหลือจ่ายค่าจำนองบ้านให้ แต่ต้องมีค่าดำเนินการที่ต้องโอนจ่ายล่วงหน้าไป 12,000 บาท ซึ่งก็ได้บอกว่าไม่มีเงินมากขนาดนั้น เพราะในบัญชีที่มีอยู่เพียง 5,700 บาท เพื่อใช้สำหรับไว้พาลูกไปหาหมอในวันที่ 19 มี.ค.61 ซึ่งผู้แอบอ้างได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้โอนเงินมาก่อน 5,000 บาท ส่วนที่เหลืออ้างว่าจะช่วยจ่ายให้ก่อน และอ้างว่าผู้ใจบุญจะโอนเงินค่าบ้านมาให้ในเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน จึงหลงเชื่อและรับปากตกลง โดยอีกฝ่ายให้ชื่อบัญชีนางสาววิไลลักษณ์  อินทรพิทักษ์ และเลขบัญชีของธนาคาร จึงโอนไป 5,000 บาท  กระทั่งช่วงเย็นก็ไม่พบผู้ใหญ่ใจบุญโอนเงินมาให้ จึงโทรศัพท์ไปถามกับผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ อีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบบ่ายเบี่ยง อ้างว่าผู้ใจบุญโอนเงินมาไม่ทัน หรือต้องรอเคลียริ่งเช็ค พร้อมกับบอกให้รอถึงวันจันทร์ ตนเองจึงนำเรื่องไปปรึกษาสามี และสามีบอกว่าคงถูกหลอกแน่นอน

ด้านนางปวีณาฯ กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากนางสาวนงลักษณ์ ว่ามีการแอบอ้างชื่อมูลนิธิฯ ไปหลอกเงิน จึงประสานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีติดตามตัว พร้อมแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ไทรน้อย โดยมีผู้เสียหายเดินทางไปด้วย  กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) นางสาววิไลลักษณ์ฯ ผู้ก่อเหตุ ได้ถูกจับกุม ฐานแอบอ้างเป็นนักข่าวให้เหยื่อคนอื่นโอนเงิน 200,000 บาทในพื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุกับนางสาววิไลลักษณ์ ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยถูกจับกุมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนในลักษณะความผิดคล้ายกัน จึงประสานตำรวจอายัดตัวต่อเพื่อดำเนินคดีอีกกระทง  โดยพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย จะทำเรื่องอายัดไปที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และเรือนจำจังหวัดราชบุรีโดยเร็ว.  -สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง