พระนครศรีอยุธยา 3 ต.ค.- เกิดเหตุยามค่ำคืนถนนสายเอเชียรถถูกปาหินถึง 2 คัน ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี เคราะห์ดีไม่มีเจ็บ คันแรกทัวร์วีไอพี อีกคันเป็นรถเก๋ง ผู้การอยุธยาสั่งสืบหาตัว มั่นใจตามจับไม่ยาก ผู้เสียหายเห็นผู้ก่อเหตุ
ร.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ แสงเงิน พนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุถนนสายเอเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ต.ค.) หลังเกิดเหตุรถโดยสารปรับอากาศ วีไอพี กรุงเทพ-พะเยา ทะเบียน 15-7247 กรุงเทพมหานคร รถร่วมบริษัทขนส่ง จำกัด และรถยนต์ รุ่นซิตี้ สีขาว ทะเบียน กค 4412 ตราด ถูกปาหินใส่กระจกหน้ารถแตกจอดอยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี ตรงข้ามเกาะพงษ์เพชร หลัก กม.ที่ 31 ตำบลขยาย อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การตรวจสอบรถโดยสารรอยกระจกแตกร้าวกว้างเกือบ 30 เซนติเมตร ซึ่งนายวิเวทศ์ จันทะวงค์ คนขับให้การว่า รับผู้โดยสารมาทั้งหมด 34 คน จากสถานีขนส่งหมอชิต ระหว่างเดินทางใช้ความเร็วประมาณ 80-90 กิโลเมตร /ชั่วโมง แล่นมาในช่องกลางและก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี เห็นชายรูปร่างผอมกับรถจักรยานยนต์จอดอยู่ริมถนนได้ใช้ก้อนหินปาใส่ถูกกระจกหน้ารถอย่างแรง หลังเกิดเหตุไม่กล้าจอดเพราะกลัวไม่ปลอดภัย จึงขับรถข้ามสะพานมาจอดขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่
ส่วนนายกิตติศักดิ์ นาคพงษ์พันธ์ เจ้าของรถยนต์ สีขาว ที่ได้รับความเสียหายกระจกหน้าแตกเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เซนติเมตร ให้การว่า ขับรถรับแฟนสาวกลับจากทำงานในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา เพื่อมาอำเภอบางปะหัน และเหลืออีกไม่ถึง 1 กิโลเมตร จะข้ามสะพานแม่น้ำลพบุรี ก็ถูกก้อนหินขนาดใหญ่ใส่กระจกหน้ารถ เคราะห์ดีก้อนหินไม่ทะลุกระจกที่ติดฟิลม์กรองแสงสองชั้น ขณะที่แฟนสาวของนายกิตติศักดิ์ เล่าว่า เห็นคนปาหิน และเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่ปาใส่รถทัวร์
ล่าสุด พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.บางปะหัน เจ้าของท้องที่และชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเร่งหาเบาะแสของผู้กระทำการดังกล่าว และให้ตำรวจวิทยาการตรวจสอบกล้องหน้ารถทัวร์ไว้เป็นข้อมูล เพราะอาจจะบันทึกภาพของผู้ก่อเหตุไว้ได้
พล.ต.ต.สุทธิ กล่าวว่า มั่นใจว่าการติดตามผู้ก่อเหตุคงไม่ยาก เพราะผู้เสียหายจำรูปพรรณสัณฐานได้ อีกทั้งยังกล้องหน้ารถ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการติดตาม.-สำนักข่าวไทย