กรุงเทพฯ 25 มี.ค. – กรมการขนส่งทางบกตรวจเข้มแท็กซี่สิ้นอายุการใช้งาน พบฝ่าฝืน 360 คัน ถอดยึดคืนแผ่นป้ายทะเบียน แนะสังเกตหมวดอักษรก่อนเลือกใช้บริการ
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมฯ มีมาตรการเข้มงวดตรวจสอบรถแท็กซี่สิ้นอายุการใช้งานโดยเฉพาะในเขตรอบนอกกรุงเทพมหานคร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และปริมณฑล เช่น รังสิต นนทบุรี นครปฐม โดยจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากพบการฝ่าฝืนดำเนินการถอดยึดคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ทันที ทั้งยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนรถที่แจ้งเปลี่ยนประเภทเป็นรถส่วนบุคคล แต่ลักลอบนำมารับจ้างรับ-ส่งผู้โดยสารจะปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงปัจจุบัน มีการฝ่าฝืน 360 คัน จึงสั่งทุกหน่วยตรวจสอบเข้มข้นและบังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุดเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้มงวดตรวจสอบและจับกุมแท็กซี่สิ้นอายุการใช้งาน เนื่องจากกฎหมายกำหนดอายุการใช้งานแท็กซี่ไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น เมื่อครบอายุการใช้งานต้องรีบส่งคืนแผ่นป้ายทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบียนรถ เพื่อแจ้งระงับทะเบียนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ครบอายุการใช้งาน ถอดอุปกรณ์ส่วนควบของรถแท็กซี่ เช่น โป๊ะไฟ มิเตอร์ และห้ามนำไปใช้รับจ้างรับ-ส่งผู้โดยสารเด็ดขาด หากต้องการใช้รถเพื่อการส่วนตัวต้องแจ้งเปลี่ยนประเภทจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลห้ามนำมารับจ้าง เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนที่ใช้บริการรถแท็กซี่ในการเดินทางให้ได้รับบริการที่ดีและปลอดภัย
ทั้งนี้ แนะนำให้สังเกตหมวดอักษรบนแผ่นป้ายทะเบียนแท็กซี่ก่อนเลือกใช้บริการ โดยหมวดที่ยังอยู่ในช่วงอายุการใช้งาน ประกอบด้วย ทศ, ทษ, ทส, ทห กรณีเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลสีเขียวเหลือง ประกอบด้วย มช, มฎ, 1มก, 1มข ส่วนรถแท็กซี่หมวด ทว และหมวด มฉ จะทยอยครบอายุการใช้งานภายในปีนี้.-สำนักข่าวไทย