กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- ตำรวจท่องเที่ยว รวบคนไทย และมาเลเซีย เครือข่าย รับจ้างเปิดบัญชี และตระเวนกดเงิน ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมเตรียมออกหมายจับคนไทย เกือบ 100 คน ที่เคยรับจ้างเปิดบัญชี ให้ขบวนการดังกล่าว
เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าสอบปากคำนายธนาธิปัตย์ สุทธารัตน์วิศาล และพวก รวม 5 คน ผู้ต้องหาที่รับจ้างเปิดบัญชี และส่งเงินให้กับแก็งคอลเซ็นเตอร์ เครือข่ายของนายชนชน (ชะ-นะ-ชน) เพชรดี หรือ โอ ซึ่งเป็นผู้จัดหาคนไปเปิดบัญชี เพื่อใช้เป็นบัญชีรับโอนเงิน ที่ได้จากการหลอกลวง และยังเข้าสอบปากคำ นายไลคา ชุน และนายโลไว ฮุง ชาวมาเลเซีย ผู้ต้องหาที่ตระเวนกดเงินสดตามตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี โดยจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเพชรบุรี พร้อมของกลางเงินสดกว่า 1 แสนบาท สลิปการโอนเงินถึงแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศมาเลเซีย
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า คดีที่ขยายผล จับคนไทย 5 คน ซึ่ง เป็นเจ้าของบัญชีและรับโอนเงิน ให้กับแก็งคอลเซ็นเตอร์จากต่างประเทศ แลกกับค่าจ้าง ส่วนแบ่งร้อยละ 4 สารภาพว่า รู้จักกับนายชนชน จากในเรือนจำ ประกอบกับยังไม่มีงานทำ จึงยอมรับจ้างเปิดบัญชีหาเงินมาใช้จ่าย และเที่ยวเตร่ ส่วนอีกคดีที่จับกุม ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 2 คน บินเข้ามาในประเทศไทย เพื่อทำหน้าที่กดโอนเงินให้กับเครือข่ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากที่ไม่สามารถว่าจ้างคนไทยให้เป็นกดเงินได้ โดยผู้ต้องหา 2 คนนี้ จะใช้วิธีการโอนผ่านแทปเล็ต เพื่อโอนเงินเข้าบัญชี ก่อนที่เครือข่ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศมาเลเซีย จะกดเงินสดออกไปครั้งละ 5 หมื่นบาท
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ยังระบุว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะขอศาลออกหมายจับคนไทยเกือบ 100 คน ที่เคยรับจ้างเปิดบัญชีให้กับแก็งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และกรุงเทพมหานคร โดยพบว่า ผู้ว่าจ้างเป็นชาวไต้หวัน และเป็นหัวหน้าขบวนการใหญ่ แม้ว่าผู้รับจ้างเปิดบัญชีเกือบ 100 คน จะปิดบัญชีไปแล้ว แต่ความผิดเกิดขึ้นแล้ว จึงจำเป็นต้องติดตามจับกุมมาดำเนินคดีทั้งหมด อย่างไรก็ตามในเร็ววันนี้ จะเปิดปฏิบัติการร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เข้าจับกุมขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่มีคนไทยร่วมก่อเหตุด้วย พร้อมเตือนคนไทยที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ให้แจ้งที่สายด่วน 1155 ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สถานีตำรวจ เพื่อรีบดำเนินการจัดการกับขบวนการเหล่านี้ -สำนักข่าวไทย