พอดกอรีซา 22 ก.พ.- มอนเตเนโกร ประเทศบนคาบสมุทรบอลข่านแจ้งผ่านทวิตเตอร์วันนี้ว่า เกิดเหตุชายนิรนามระเบิดฆ่าตัวตายหลังจากขว้างระเบิดเข้าไปในสถานทูตสหรัฐในกรุงพอดกอรีซา
รัฐบาลมอนเตเนโกรทวีตผ่านบัญชีทางการว่า ชายนิรนามขว้างวัตถุที่น่าจะเป็นระเบิดมือเข้าไปในสถานทูตสหรัฐจากบริเวณสี่แยกใกล้ศูนย์กีฬา โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงยืนยันว่า เกิดระเบิดขนาดย่อมใกล้สถานทูตสหรัฐ เจ้าหน้าที่สถานทูตกำลังประสานงานกับตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อระบุตัวคนร้าย ด้านสถานทูตทวีตว่า ได้ยกเลิกบริการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซา) ทั้งหมดในวันนี้ และจะให้บริการพลเมืองอเมริกันเฉพาะกรณีที่จำเป็น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศูนย์กีฬาเผยว่า ได้ยินเสียงระเบิดสองครั้งดังติดต่อกัน ตำรวจรีบรุดมานำศพชายคนหนึ่งไปโดยทันที ขณะที่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเผยว่า ไม่เห็นความเสียหายเพราะตำรวจปิดล้อมสถานทูตซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองหลวง ใกล้กับศูนย์บัญชาการตำรวจลับและแม่น้ำโมรัตชา มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา
มอนเตเนโกรมีประชากร 660,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคริสต์ออร์โธด็อกซ์ เข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน แม้ว่าฝ่ายค้านที่ฝักใฝ่รัสเซียประท้วงด้วยความรุนแรงเมื่อปี 2558 หน่วยงานวิชาการในภูมิภาคคาบสมุทรบอลข่านออกรายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า ตั้งแต่ปี 2555 มีคนจากประเทศฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรประมาณ 1,000 คนเข้าร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรีย ในจำนวนนี้ 23 คน เดินทางไปจากมอนเตเนโกร ศาลมอนเตเนโกรตัดสินจำคุก 6 เดือนชายวัย 39 ปีเมื่อเดือนก่อนข้อหาไปรบในซีเรียให้กลุ่มไอเอสระหว่างปี 2558-2559 เป็นการตัดสินคดีไอเอสคดีแรกของประเทศ.- สำนักข่าวไทย