ผู้ว่าฯ กทม.สั่งปิดทันที 2 ตลาด ส่วนอีก 3 รู้ผล 7 วันปิดหรือไม่

กทม. 21 ก.พ.- ผู้ว่าฯ กทม.สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทั้ง 5ตลาด ย่านเขตประเวศ รอบบ้านป้าทุบรถ ทราบผลภายใน 7 วัน เบื้องต้นสั่งปิดทันที 2 ตลาด 


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร ลงพื้นที่เขตประเวศบ้านเลขที่ 37/208 เพื่อขอพบนางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ หรือ ป้าทุบรถ กรณีมีรถจอดขวางหน้าบ้าน เหตุซื้อของที่ตลาดในละแวกนี้ โดยพล.ต.อ.อัศวิน กดกริ่งแล้ว แต่กลับไม่มีผู้ใดออกมา จึงต่อสายโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับนางสาวบุญศรี โดยระหว่างพูดคุย พล.ต.อ.อัศวิน รับฟังปัญหา และพร้อมที่จะดูแลบรรเทาทุกข์เยียวยาตามอำนาจหน้าที่กรอบกฎหมาย ยืนยันจะขจัดปัดเป่าปัญหาให้เร็วที่สุด


โดยนางสาวบุญศรี เจ้าของบ้านดังกล่าว ยืนยัน อยากให้ กทม. รื้อถอนตลาดรอบบ้านทั้งหมดเร็วที่สุด เพราะได้รับผลกระทบทั้งกลิ่น เสียง ควัน และไม่ควรให้มีการตั้งตลาดขึ้นอีก เพราะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวภายหลังพูดคุยว่า หลังจากนี้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทั้ง 5 ตลาด โดยในระหว่างนี้จะทำหนังสือส่งไปยังเจ้าของตลาด เพื่อแจ้งผู้ค้า ให้แสดงความจำนงค์ว่าจะค้าขายต่อหรือไม่ หากจะค้าขายต่อ ต้องปรับปรุงพื้นที่ให้ถูกต้องตามระเบียบ ข้อกฎหมายอย่างไร โดยภายใน 7วัน หรือวันที่ 28 ก.พ.นี้ต้องได้ข้อสรุป ว่าจะปิดตลาด หรือดำเนินการอย่างไรต่อไป 


พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตรวจสอบ พบ ตลาดสวนหลวง ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ตลาดยิ่งนรา มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารเชิงพาณิชย์ แต่นำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยไม่มีการขอจัดตั้งตลาด ส่วนตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร และไม่มีการขอจัดตั้งตลาด ซึ่งผิดกฎหมาย จึงสั่งปิดทันทีภายใน 7 วัน ส่วนอีก 3ตลาด สาเหตุที่ยังไม่สั่งปิดทันที เพราะเกรงว่า จะส่งผลกระทบต่อผู้ค้า ทำให้เดือดร้อนไม่มีที่ค้าขายในภายหลัง จึงอยากให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน 

ส่วนเรื่องข้าราชการประจำละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ตอนนี้ขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน จากนั้นจะตรวจสอบย้อนหลังไปยังจุดเริ่มต้น พร้อมทั้งเอาผิดตามระเบียบข้อบังคับ อย่างไรก็ตามยืนยันไม่กลัวอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างจะต้องทำให้ถูกต้อง ถ้าหยิกเล็บเจ็บเนื้อก็ต้องทำเพื่อสังคม  สำหรับกรณีที่นางสาวบุญศรี ให้กทม.ชดใช้ค่าเสียหาย พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เงินเดือนตนก็ต้องเก็บไว้ใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ พล.ต.อ.อัศวิน ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพภายในตลาดทั้ง 5แห่ง ได้พบเจ้าของตลาดสวนหลวง จึงได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งเจ้าของตลาดนำเอกสารมายืนยัน ว่า มีใบอนุญาตถูกต้อง โดยเจ้าของตลาด ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยหลังจากนี้ กทม.ได้ประสานผกก.สน.ประเวศ ดูแลและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ไม่ใช่เฉพาะบ้านของนางสาวบุญศรี แต่จะดูแลประชาชนทุกคนทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดือดร้อนรำคาญ ขณะเดียวกัน กทม.จะตรวจสอบการขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และใบอนุญาตจัดตั้งตลาด กับตลาดที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด ซึ่งทุกแห่งจะต้องทำให้ถูกต้องตามที่ระเบียบกำหนด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง