คาดปีนี้มาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานมีผลบังคับใช้

กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – กบง.เห็นชอบออกกฎกระทรวงฯ มาตรการบังคับใช้กับอาคารประหยัดพลังงาน คาดมีผลบังคับใช้ปีนี้ ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนปีที่แล้วพบต่ำกว่าแผนร้อยละ 3 เหตุประสิทธิภาพการผลิตไม่เป็นไปตามคาด  


นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ.แถลงว่าที่ประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบการออกกฎกระทรวงฯ เพื่อเป็นมาตรการบังคับใช้ขั้นต่ำกับอาคารขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการใช้พลังงานสูง เรียกว่า เกณฑ์มาตรฐานประสิทธิภาพด้านพลังงานในอาคาร (Building Energy Code) ด้วยการกำหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการพลังงานกับอาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลงตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบอาคาร เพื่อให้อาคารมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ  ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าร้อยละ 10 ซึ่งจะมีการนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( กพช.) 7 มีนาคมนี้  และเสนอ ครม.ต่อไป โดยจะมีผล  120 วันหลังกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2561 มีเป้าหมายว่าภายใน 20 ปี จะสามารถประหยัดไฟฟ้าได้รวมประมาณ 13,700 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 48,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะบังคับสำหรับอาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลง 9 ประเภทอาคาร ได้แก่ 1. สำนักงาน 2. โรงแรม 3. โรงพยาบาล 4. ศูนย์การค้า 5. โรงมหรสพ 6. สถานบริการ 7. อาคารชุมนุมคน 8. อาคารชุด และ 9. สถานศึกษา ต้องออกแบบให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ระบุ ได้แก่ ระบบกรอบอาคาร ระบบปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบผลิตน้ำร้อน และการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยให้มีการบังคับใช้กับอาคารขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมก่อนและทยอยบังคับใช้กับอาคารทั้ง 9 ประเภท ภายใน 3 ปี 


สำหรับกรอบการดำเนินงาน แบ่งเป็น 3 ระยะ ปีที่ 1 บังคับใช้กับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตร ขึ้นไป, ปีที่ 2 บังคับใช้กับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป และปีที่ 3 บังคับใช้กับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตร ขึ้นไป

นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558 – 2579 (PDP 2015)ใน ปี 2560 ซึ่งพบว่าการใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนมีประมาณร้อยละ 7 ต่ำแผนที่กำหนดไว้ร้อยละ 10  เนื่องจาก PLANT FACTOR หรือประสิทธิภาพการผลิตอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยมีกำลังผลิตอยู่ที่ 8,471 เมกะวัตต์ ขณะที่มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1,616 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า แต่ยังไม่ก่อสร้างอีก 716 เมกะวัตต์ 

ที่ประชุม กบง.หารือถึงกิจกรรมขนส่งน้ำมันทางท่อ โดยเห็นว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.ไม่จำเป็นต้องกำกับดูแลเรื่องค่าบริการขนส่งน้ำมันทางท่อ  เนื่องจากมีการควบคุมอัตราค่าบริการให้มีความเหมาะสม และมีการแข่งขันกับผู้ประกอบกิจการขนส่งน้ำมัน ด้วยวิธีการอื่น ๆ อย่างกว้างขวางอยู่แล้ว รวมทั้งขณะนี้มีการกำกับดูแลธุรกิจการขนส่งน้ำมันทางท่อ โดยการขึ้นทะเบียนกับกรมธุรกิจพลังงาน ประกอบกับคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใต้พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560สามารถกำกับการใช้อำนาจเหนือตลาดได้อยู่แล้ว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ช้างป่ายกโขลงประชิดหมู่บ้าน ไล่ระทึกทั้งคืน

ไล่ระทึกกันทั้งคืน ช้างป่ายกโขลงบุกประชิดหมู่บ้านตลิ่งชัน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ออกหากินผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน