ขสมก.เตรียมรถบริการ5เส้นทางส่งถึงงาน”อุ่นไอรัก คลายความหนาว”

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- พร้อมแล้ว! งาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” 8 ก.พ.-11 มี.ค.นี้  ขสมก.เตรียมรถบริการ 5 เส้นทาง ส่งถึงงาน ย้ำ ต้องพกบัตรปชช.-พาสปอร์ต ชวนแต่งกายย้อนยุค ห้ามกางเกงขาสั้น-เสื้อกล้าม-รองเท้าแตะ


พลตำรวจโทไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผอ.กองอำนวยการร่วมการจัดงาน”อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ประชุมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าการดูแลความปลอดภัยและการจัดการจราจร รอบบริเวณการจัดงาน ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธุ์ถึง 11 มีนาคมนี้ โดยยืนยันว่าที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าในส่วนต่างๆ ซึ่งพบว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เช่นการจัดการจราจร ทางกระทรวงคมนาคม ได้จัดเที่ยวรถโดยสารประจำทางรับส่งผู้ที่ต้องการมาร่วมงานรวม 5 เส้นทาง เช่น สนามหลวง / สนามม้านางเลิ้ง / สถานีขนส่งจตุจักร / อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และวงเวียนใหญ่ โดยแนะนำให้ผู้ที่ต้องการมาร่วมงานเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะสะดวกกว่า โดยรถที่จะวิ่งรับส่งหากเป็นรถชัตเทิลบัส จากสนามหลวงและสนามม้านางเลิ้ง จะออกวิ่งรับส่งประชาชนทุก 10 นาที เริ่มตั้งแต่เที่ยวแรกเวลา 9.00 น.ถึง 21.00 น.และรับส่งคนออกจากงานเที่ยวสุดท้ายเวลา 22.00น.ขณะที่ พลตำรวจตรีธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า สำหรับการปิดเส้นทางจราจร จะมีการปิดการจราจรตลอดเวลาในถนนอู่ทองใน และ ถนนศรีอยุธยา 1 ช่องทาง ฝั่งสวนอัมพรและฝั่งสนามเสือป่า โดยในเวลากลางวันประชาชนที่นำรถมา สามารถรับส่งผู้มาร่วมงานได้ถึงบริเวณแยกวัดเบญฯ และแยก พล.1 ส่วนในเวลากลางคืน จะมีการปิดแยกมิสกวันเพิ่มอีก 1 เส้นทาง

ด้าน พลตำรวจตรีมนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มาร่วมงานแนะนำให้พกบัตรประชาชนมาทุกคน หรือหากเป็นชาวต่างชาติก็จำเป็นต้องพกหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตติดตัวมาด้วย ส่วนเรื่องการแต่งกายแนะนำให้แต่งกายด้วยชุดย้อนยุคหรือชุดสุภาพ ห้ามสวมใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะหรือเสื้อกล้ามเข้ามาในบริเวณงาน ทั้งนี้สำหรับการดูแลความปลอดภัยนั้น จะใช้แผนการรักษาความปลอดภัยแบบเดียวกับที่การจัดงานบริเวณท้องสนามหลวง ใช้กำลังตำรวจ 1,619 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย และประเมินพื้นที่การรองรับประชาชนที่เข้ามาร่วมงาน สามารถรองรับได้มากสุดถึงกว่า 5 หมื่นคน.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง