พบ8แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อโอนเงิน

กรุงเทพฯ 22 ม.ค.- พบ 8 แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อโอนเงิน ล่าสุดพัฒนารูปแบบเปิดไลน์โดยใช้รูปเลขา ปปง.เป็นโปรไฟล์ มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย


พลตำรวจเอกธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประชุมร่วมกับ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1-9  พนักงานสอบสวน คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดคดีและชี้แจงรูปแบบและกลอุบายของคนร้ายที่ใช้หลอกเหยื่อ 

พลตำรวจเอกธนิตศักดิ์ ระบุตั้งแต่เปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์สามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับคนร้ายได้ กว่า 200 หมายจับ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว กว่า 70 หมายจับ ซึ่งพอใจผลการปฏิบัติงานในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธนาคาร เพราะหากผู้เสียหายแจ้งความและอายัดบัญชีได้ไวจะลดความสูญเสียลงได้ 


ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่า ตำรวจพบข้อมูลแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีทั้งหมด 8 แก๊ง จากการคัดกรอง 50 หมายเลขที่ถูกทางการบล็อกไว้ ซึ่งมีทั้งแก๊งที่มีคนไทยเข้าร่วมขบวนการ มีทั้งประเทศไทยเป็นฐานและกระทำความผิดจากต่างประเทศ จึงกำชับให้ฝ่ายปฏิบิติการรับนโยบายในทิศทางเดียวกัน เพิ่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวงได้ทันท่วงที

นายพีระพัฒน์ พงษ์พันธ์ ผอ.กองคดี 1 ปปง.เปิดเผยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวง  ล่าสุดอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แจ้งพัสดุที่มียาเสพติด และใช้ไลน์ปลอมโปรไฟล์โดยมีรูปหน้าเลขา ปปง. เพื่อความน่าเชื่อถือให้กับผู้เสียหาย ก่อนหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อโอนเงิน ย้ำรัฐไม่มีนโยบายให้ประชาชนโอนเงินเข้าบัญชีหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด

ทั้งนี้ได้สรุปปฏิบัติการอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสามารถอายัดเงินคืนได้ 23 ราย จำนวนเงินกว่า 6,500,000 บาท สถิติการรับแจ้งเหตุจากประชาชนตั้งแต่เดือน 8 ธันวาคม 60 ถึง 20 มกราคม 61 ผ่านทางสายด่วน 1710 จำนวน 187 คดี มูลค่ากว่า 96 ล้านบา


ในขณะเดียวกัน ได้มีการมอบเงินคืนแก่ผู้เสียหาย จากการถูกหลอกลวงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงและโอนไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้ายแล้วระงับการถอนเงินจนสามารถนำเงินคืนให้ผู้เสียหาย ได้ 2 ราย จำนวน 532,000 บาท ซึ่งเป็นผู้เสียหายในพื้นที่ สน.บางกอกน้อย และสภ. แหลมฉบัง นับเป็นครั้งที่ 5 แล้ว.-สำนักข่าวไทย

    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ