กรุงเทพฯ 8 ม.ค.- รองโฆษก อสส. ชี้หาก “ยิ่งลักษณ์ “ขอลึ้ภัยการเมืองไปอังกฤษจะเป็นคนแรกของประเทศไทย ส่วนจะเข้าข่ายลี้ภัยได้หรือไม่เป็นดุลยพินิจของประเทศนั้น
ตามที่มีการเผยแพร่ภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในสังคมออนไลน์ ปรากฏตัวที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้ประเด็นเรื่องความเป็นไปได้ที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ รวมถึงกระแสข่าวลือเตรียมยื่นคำขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษนั้น
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าประเทศอังกฤษยังไม่มีการประสานเรื่องนางสาวยิ่งลักษณ์มาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนหากมีการขอลี้ภัยจริงก็เป็นขั้นตอนภายในของประเทศอังกฤษที่จะใช้ดุลพินิจ ส่วนความผิดของนางสาวยิ่งลักษณ์จะเข้าเกณฑ์การลี้ภัยของอังกฤษหรือไม่ก็เป็นอำนาจของประเทศอังกฤษพิจารณาเช่นกัน
จากอดีตที่ผ่านมายังไม่เคยมีผู้นำคนไหนของไทยลี้ภัยไปยังประเทศอังกฤษ ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์ขอลี้ภัยจริงจะถือเป็นรายแรกของประเทศ รวมถึงก็ยังไม่เคยมีบุคคลใดมาขอลี้ภัยที่ประเทศไทย
ส่วนหลักเกณฑ์การจะยื่นคำขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ จะต้องมีเหตุผลสำคัญว่าการไม่สามารถเดินทางกลับไปประเทศของตนได้ เพราะมีภัยคุกคาม เกรงกลัวถูกทรมาน ข่มเหง หรือมีพฤติการณ์ให้เป็นอันตรายต่อชีวิต หรือ ถูกดำเนินคดี อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นมูลเหตุจากเรื่องต่าง ๆ อาทิ เชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง หรือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้ผู้ยื่นคำขอลี้ภัย รวมถึงผู้ร้องขอไม่ได้ทำความผิดอาญาอย่างร้ายแรง เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปล้นฆ่า นอกจากนี้ประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ปี 2494 และไม่มีกฎหมายรับรองสถานภาพของผู้อพยพ และผู้แสวงหาลี้ภัย
ส่วนขั้นตอนของกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในส่วนของสำนักงานอัยการรับผิดชอบ จะต้องได้รับการยืนยันจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนถึงถิ่นที่อยู่ของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่แน่ชัด ถึงจะดำเนินการต่อได้ จากนั้นจึงจะร้องขอไปที่ประเทศผู้นั้นพำนักและร้องขอให้มีการจับกุมชั่วคราวและส่งคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนภายใน 60 วัน ซึ่งถ้าคำร้องไม่เสร็จก็อาจมีการปล่อยตัว แต่ทั้งนี้การพิจารณาการจับกุมและการขอส่งตัวต้องขึ้นอยู่กับอำนาจอธิปไตยของรัฐนั้นๆ .-สำนักข่าวไทย