กรุงเทพฯ 27 ธ.ค.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 แม้ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุเฉพาะรถโดยสารสาธารณะทรงตัว แต่หลักสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุยังต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น
พนักงานขับรถตู้โดยสารกำลังตรวจความพร้อมสภาพรถตามรายการตรวจสอบ หรือ Checklist ที่กรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้น เพื่อเข้มงวดตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ รองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งระบบ Checklist ถูกนำมาใช้เป็นปีแรก เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 212 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากสภาพเครื่องยนต์ สภาพตัวรถ ระบบเบรก ยางล้อ ประตูรถ อุปกรณ์ความปลอดภัยประจำรถก็เป็นสิ่งจำเป็น ทั้งเข็มขัดนิรภัย ทางออกฉุกเฉิน ฆ้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง ที่ต้องมีครบและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งต้องให้พนักงานปล่อยรถของกรมการขนส่งทางบกตรวจสอบอีกรอบก่อนปล่อยรถไปในแต่ละเที่ยว
หลังจากตรวจสอบอุปกรณ์ภายในรถแล้ว ก็คนขับจะใช้ใบขับขี่ที่มีแถบแม่เหล็ก ซึ่งมีข้อมูลเลขบัตรพนักงานขับรถรูดกับเครื่อง GPS ก็จะทำงาน และส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังศูนย์ที่กรมการขนส่ง ทำให้ทราบว่ารถความเร็วเท่าใด และอยู่ตรงไหน
และหากพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด ไม่ขับตามเวลาที่กำหนด หรือออกนอกเส้นทาง เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จะติดต่อมาที่รถคันดังกล่าวทันที จากเดิมที่แม้จะมีการติด GPS แต่ไม่มีการแจ้งมาที่รถที่ทำผิด
นอกจากรถตู้โดยสาร รถสาธารณะอื่นๆ ก็มีผู้ใช้บริการหนาแน่นไม่แพ้กัน อย่างรถบัส รถทัวร์ ซึ่งต้องผ่านการตรวจความพร้อมสภาพรถ หรือ Checklist เช่นกัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ส่วนรถบัสหรือรถทัวร์ก็จะมีการตรวจสภาพรถเช่นเดียวกัน แต่อาจมีอุปกรณ์บางอย่างต่างกันที่ขนาดและจำนวน อย่างค้อนทุบกระจกก็จะมีจำนวนไม่เท่ากัน
สิ่งสำคัญคือไม่ว่าจะรถโดยสารประเภทใด พนักงานขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถถูกต้อง ไม่มีสารเสพติด และไร้แอลกอฮอล์ ชั่วโมงขับรถไม่เกินกฎหมายกำหนด นั่นคือเมื่อขับรถติดต่อกันครบ 4 ชั่วโมง ต้องพักอย่างน้อย 30 นาที จึงสามารถขับรถต่อไปได้อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง เมื่อครบระยะเวลา ต้องเปลี่ยนคนขับทันที
ผู้บริหาร บขส.บอกว่า ปีใหม่นี้เน้นพิเศษเรื่องความปลอดภัย โดยรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ขับช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย ตั้งเป้าให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์ จึงเน้นทั้งการซ่อมบำรุงรถ และปรับปรุงถนน 61 เส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุสูงทั่วประเทศให้อยูในสภาพปลอดภัย
แม้ภาพรวมอุบัติทางถนนทั้งประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี แต่เมื่อดูสถิติอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามีแนวโน้มคงที่ โดยเฉพาะรถตู้โดยสารและรถโดยสารขนาดใหญ่ ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ให้ข้อมูลว่าเป็นการสะท้อนว่ามาตรการควบคุมความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะได้ผล ซึ่งทุกครั้งที่มีอุบัติเหตุจะมีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชิงลึก เก็บข้อมูลทั้งหมดเพื่อหาสาเหตุอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ก่อนประมวลออกมาเป็นมาตรการเพื่อลดอุบัติเหตุที่เข้มขึ้นทุกปี
อีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยได้คือ ประชาชนผู้ใช้บริการเริ่มมีการถ่ายคลิปพฤติกรรมพนักงานขับรถโดยสารส่งเข้ามากขึ้น ทำให้มีข้อมูลที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ร่วมกับการสืบสวนอุบัติเหตุเชิงลึกที่ได้.-สำนักข่าวไทย