กทม. 19 ธ.ค.-ผลสำรวจปี 2558 พบ 56% คู่สมรสชาวไทยมีพฤติกรรมนอกใจคู่สมรสถึงขั้นมีสัมพันธ์ลึกซึ้งทั้งที่มีคู่ครองอยู่แล้ว สาเหตุหนึ่งมาจากแหล่งมั่วสุมทางเพศที่มีอยู่ทั่วไป รวมทั้งค่านิยมผิดๆ ที่ผู้คนยินยอมพร้อมใจอยู่ในสถานะการเป็นเมียน้อย หรือสามีลับ
รายงานผลการสำรวจปี 2558 เรื่องพฤติกรรมการนอกใจคู่ครองทั่วโลก พบว่าคู่สมรสชาวไทย 56% มีพฤติกรรมนอกใจคู่สมรส ถึงขั้นมีสัมพันธ์ลึกซึ้งทั้งที่มีคู่ครองอยู่แล้ว สาเหตุหนึ่งมาจากแหล่งมั่วสุมทางเพศที่มีอยู่ทั่วไป รวมทั้งค่านิยมผิดๆ ที่ผู้คนยินยอมพร้อมใจอยู่ในสถานะการเป็นเมียน้อย หรือสามีลับ ส่วนอันดับ 2 คือ เดนมาร์ก 46% อันดับ 3 และ 4 คือ อิตาลี เยอรมนี ที่ 45% อันดับ 5 ฝรั่งเศส 43% สอดคล้องกับผลสำรวจเมื่อปี 2555 หรือ 5 ปีที่แล้ว คู่รักชาวไทยมีความ “ไม่ซื่อสัตย์” ต่อคู่รักของตนเองมากที่สุดในโลก คิดเป็น 54% ตามด้วยคู่รักชาวเกาหลีใต้ 34% และมาเลเซีย 33%
ขณะที่พฤติกรรมนอกใจของหญิงสาวปี 2555 จากแบบสอบถามเฉพาะเพศหญิง 29,000 คน 39 ประเทศ พบว่าสาวกานาไม่ซื่อสัตย์ต่อคนรักมากที่สุด 62% ตามด้วยสาวไทย อันดับ 2 อยู่ที่ 59% อันดับ 3 สาวมาเลเซีย 39% อันดับ 4 สาวรัสเซีย 33% และอันดับ 5 สาวสิงคโปร์ 19% ให้หลัง 4 ปี สื่อออนไลน์ The Clever ของอังกฤษ เผยแพร่บทความระบุเนื้อหาผล
สำรวจปี 2559 พบว่าสาวไทยไม่ปรากฏในการจัดอันดับพฤติกรรมนอกใจแล้ว ส่วนแชมป์ใหม่คือ สาวนิวซีแลนด์ อันดับรองลงมาส่วนใหญ่เป็นประเทศในยุโรป และออสเตรเลีย ส่วนอันดับ 15 คือสาวไนจีเรีย
ส่วนในญี่ปุ่นกลับพบผลสำรวจเมื่อปี 2553 ของสถาบันประชากรและประกันสังคมแห่งชาติญี่ปุ่น พบว่าชายญี่ปุ่นอายุ 30-39 ปี ราว 25% ยังครองโสด คงความ “บริสุทธิ์” แถมเป็นแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นถึง 3% จากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อปี 2535 ด้วยเหตุผลสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ส่งผลให้ชายญี่ปุ่นต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดและไม่สนใจการครองคู่
ขณะที่วัยรุ่นอายุ 18-19 ปี 68% ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเลย ซึ่งองค์กรไม่แสวงกำไร White Hands ระบุว่าญี่ปุ่นยุคใหม่ต้องจริงจังกับการแก้ไขปัญหาโครงสร้างสังคมที่เรื้อรังมานาน นั่นคือการที่ประเทศมีสิ่งยั่วยุเรื่องเพศค่อนข้างเสรี ทั้งบนหน้าจอทีวี หนังสือ และการ์ตูน แต่ไม่มีสถานที่เพื่อการเรียนรู้เรื่องเพศที่คู่ควร รวมถึงการปลูกฝังถึงคุณค่าในความรัก หรือการสร้างความสัมพันธ์แบบโรแมนติก เพื่อนำไปสู่จิตสำนึกเรื่องความซื่อสัตย์ ลาภยศสรรเสริญ ลดปัญหาการทุตริตคอร์รัปชั่นในภาพรวมได้.-สำนักข่าวไทย