ทำเนียบฯ 14 ธ.ค.-เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ เตรียมขยายความร่วมมือด้านต่าง ๆ พร้อมเชิญชวนนักลงทุนอิสราเอลให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายเมอีร์ ชโลโม เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความขอบคุณที่เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ เข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องหาแนวทางเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น โดยเห็นว่าไทยและอิสราเอลยังมีศักยภาพในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจได้อีกมาก เนื่องจากเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมีลักษณะที่เกื้อหนุนกัน
พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่รัฐบาลไทยกับรัฐบาลอิสราเอลได้ลงนามความตกลงความร่วมมือด้านการเกษตร โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายอย่างมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร เพื่อผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป พร้อมกันนี้ ชื่นชมอิสราเอลถึงพัฒนาการทางเทคโนโลยี รวมถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำ และเห็นว่าทั้งสองประเทศสามารถขยายความร่วมมือได้ในด้านต่าง ๆ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนนักลงทุนอิสราเอลให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย โดยเฉพาะในสาขาที่อิสราเอลมีความเชี่ยวชาญ
“นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้ทราบว่ามีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมอิสราเอลว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และหวังว่าบันทึกความเข้าใจฯ จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือให้กว้างขวางและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และขอบคุณอิสราเอลที่ให้การดูแลและสนับสนุนแรงงานไทย โดยหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการของแรงงานไทย ตลอดจนการดูแลสภาพความเป็นอยู่ที่ดีของแรงงานไทยในอิสราเอล” พล.ท.วีรชน กล่าว
พล.ท.วีรชน กล่าวด้วยว่า ด้านเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวยินดีกับความสัมพันธ์และมิตรภาพอันยาวนานระหว่างสองประเทศ โดยครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ไปเมื่อปี 2557 โดยอิสราเอลได้รับแรงบันดาลใจมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ในด้านปรัชญาการเกษตรและการบริหารจัดการน้ำ นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีความสนใจในนโยบายไทยแลนด์ + 1 โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวจะนำไปสู่การติดต่อระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีและมิตรภาพระหว่างกันได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ได้มอบหนังสือเชิญจากนายกรัฐมนตรีอิสราเอล แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าร่วมงานวันเฉลิมฉลองการประกาศเอกราชของประเทศอิสราเอลครบ 70 ปี ในช่วงต้นปีหน้า.-สำนักข่าวไทย